เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 20 ก.ค. 2557 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 204 หมู่ 3 ต.เชียรใหญ่ เชิงสะพานข้ามคลองเชียรใหญ่ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีการจัดงานเลี้ยงน้ำชา-กาแฟ เพื่อหาเงินช่วยเหลือ ผู้พิการได้รับความลำบากและเดือดร้อนในการดำรงชีวิต จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าบริเวณเพิกพักริมคลองรวมทั้งพื้นที่ใต้สะพานมีประชาชนจำนวนมากมาร่วมรับเลี้ยงน้ำชา เพื่อระดมเงินช่วยเหลือนายสมเกียรติ เล็กไม่น้อย อายุ 36 ปี อดีตช่างตัดเย็บเสื้อผ้าฝีมือดีในกรุงเทพ ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์พิการแขนและขาด้านขวาจนไม่สามารถเดินได้เหมือนคนปกติ รวมทั้งเส้นเลือดในสมองแตกทำให้พูดไม่ได้ โดยมีข้าราชการ พรรคพวกเพื่อนฝูงและประชาชนทั่วไปเดินทางมาร่วมกิจกรรมนับร้อยคน
นายสุรศักดิ์ สุขเกื้อ อายุ ประธานสภา อบต.เชียรใหญ่ แกนนำในการจัดกิจกรรมจัดเลี้ยงน้ำชา-กาแฟ เพื่อหาเงินช่วยเหลือนายสมเกียรติ เปิดเผยว่า นายสมเกียรติ เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน เคยเรียนมาด้วยกันในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนบ้านบางพระ และระดับมัธยมที่โรงเรียนวิเชียรประชาสรรค์ อ.เชียรใหญ่ โดยนายสมเกียรติ เป็นคนนิสัยเรียบร้อย ชอบช่วยเหลือเพื่อนฝูง จึงเป็นที่รักใคร่ชอบพอของเพื่อนฝูง หลังจากจมชั้น ม. 3 ก็ได้แยกย้ายกันไปเรียนต่อ บางคนก็ทำงานมีครอบครัวแต่จะกลับมาพบกันปีละครั้งในงานเลี้ยงรุ่นโรงเรียนวิเชียรประชาสรรค์ ต่อมาเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมาตนทราบว่านายสมเกียรติ ซึ่งทำงานเป็นหัวหน้าช่างตัดเย็บเสื้อผ้าในโรงงานแห่งหนึ่งที่กรุงเทพ แต่มีปัญหาทำให้ครอบครัวมีหนี้สินก้อนหนึ่ง ภรรยาของนายสมเกียรติ จึงทิ้งลูกชายปัจจุบันอายุ 1 ขวบ 7 เดือนไว้กับนายสมเกียรติแล้วหลบหนีไป ส่งผลให้นายสมเกียรติ คิดมากและเครียดอย่างหนักจนล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์อย่างกะทันหัน กลายเป็นคนพิการไปครึ่งตัว ไม่สามารถเดินไปไหนได้ พูดไม่ได้ ญาติ ๆ จึงไปรับกลับนายสมเกียรติ พร้อม ด.ช.มอส บุตรชายนายสมเกียรติ กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน
“ตนจึงมาเยี่ยมนายสมเกียรติ ที่บ้าน โดยทราบว่านายสมเกียรติเข้ารับการรักษาที่ รพ.เชียรใหญ่ และ รพ.มหาราช จนพอจะได้ไม้เทาค้ำยันพยุงตัวเองเดินได้เล็กน้อย แต่ยังพูดไม่ได้ ในการรักษาต้องใช้การรักษาทั้งแพทย์แผนไทย และแผนปัจจุบัน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือนจึงจะหายเป็นปกติได้ แต่เนื่องจากพ่อ แม่และญาติพี่น้องของนายสมเกียรติ มีฐานะยากจนไม่มีเงิน ตนจึงประสานงานกับเพื่อน ๆที่เคยเรียนรุ่นเดียวกันทั้งที่ทำงานอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชรวมทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยจัดตั้งกลุ่มไลน์ประสานการจัดงานเลี้ยงน้ำชาเพื่อหาเงินช่วยเหลือครอบครัวของนายสมเกียรติขึ้นในวันนี้ดังกล่าว โดยมีเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันเดินทางมาร่วมกว่า 20 คน ส่วนคนที่ไม่สามารถมาได้ก็โอนเงินมาสมทบช่วยเหลือนายสมเกียรติเช่นกัน”
นายวิชาญ บัวใหญ่ ผู้ช่วยเภสัชกร รพ.เชียรใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ให้การดูแลช่วยเหลือนายสมเกียรติ กล่าวว่า ในช่วงแรกที่ไปรับตัวนายสมเกียรติ กลับมาจากกรุงเทพ อาการรุนแรงมาก เพราะนายสมเกียรติ ไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้เลย พูดไม่ได้ ฟังได้ยิน ในขณะนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว แพทย์ระบุว่ามีโอกาสจะหายเป็นปกติได้ โดยต้องได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิดทั้งแผนแผนไทยและแผนปัจจุบัน จำเป็นต้องใช้เวลาในการทำกายภาพบำบัดและนวดเส้นในจุดต่าง ๆ เพื่อน ๆ ของนายสมเกียรติ จึงรวมตัวกันจัดกิจกรรม “เพื่อนช่วยเพื่อน”โดยการจัดเลี้ยงน้ำชา-กาแฟ เพื่อระดมเงินมาช่วยเหลือนายสมเกียรติ
“อย่างไรก็ตามหลังจากข่าวการจัดกิจกรรมได้รับการเผยแพร่ไปทางโลกออนไลน์ ทำให้มีผู้ใจบุญทั้งในและต่างพื้นที่เดินทางมาร่วมรับเลี้ยงน้ำชาและบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวนายสมเกียรติเป็นจำนวนมากเกินความคาดหมาย ทั้งนายประสาสน์ ศรีเจริญ นายก อบต.เชียรใหญ่ พร้อมรองนายก ฯ และ ส.อบต. นายสมโชค ทองเทพ เกษตรอำเภอเชียรใหญ่ ข้าราชการ นักธุรกิจและประชาชนจำนวนนับร้อยคนเดินทางมาร่วมรับเลี้ยงน้ำชา –กาแฟ และรวมบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวนายสมเกียรติอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันคาดว่าในวันนี้จะได้เงินอย่างน้อย 20,000 บาท นอกจากนี้ยังมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือทางบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) สาขาเชียรใหญ่ เลขที่ 826-0-24745-3 ชื่อบัญชีนายศรีเมือง เล็กไม่น้อย ซึ่งเป็นพ่อของนายสมเกียรติอีกจำนวนหนึ่งด้วย”
ในขณะที่นายศรีเมือง เล็กไม่น้อย บิดาของนายสมเกียรติ กล่าวว่า ตนไม่คาดคิดว่าเพื่อนฝูงของนายสมเกียรติ รวมทั้งผู้ใจบุญจำนวนมากมาเดินทางมาช่วยเหลือนายสมเกียรติ จำนวนมากมายถึงเพียงนี้ ตนต้องกราบขอบพระคุณทุกคนทุกท่าน สำหรับยอดเงินบริจาคตนจะรวบรวมและแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันอีกครั้งหนึ่ง และตนจะนำเงินที่ได้รับความเมตตาไปใช้จ่ายในการรักษานายสมเกียรติ ให้หายเป็นปกติเพื่อจำได้กลับมาทำงานหาเงินเลี้ยงน้องมอส บุตรชายรวมทั้งพ่อแม่ต่อไป.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
20 ก.ค. 2557