เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 มิ.ย. 2557 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใน 3 ตำบล ประกอบด้วย จ.ท่างิ้ว ต.นาทราย ต.นาเคียน และ ต.ปากพูนอ.เมือ จ.นครศรีธรรมราช กว่า 300 ครับเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากน้ำเน่าเสียจากกองขยะเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ไหลซึมลงสู่ใต้ดินแล้วไหลมาปะปนกับแหล่งน้ำธรรมชาติในคลองหลังค่ายวชิราวุธ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหนักอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบ30 ปี โดยมี นายธนวรรณ แซ่เตีย อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 182 หมู่ที่ 5 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นแกนนำเข้าร้องเรียนขอความกับผู้สื่อข่าวเพื่อเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวจึงลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ด้านหลังสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 “ทุ่งท่าลาด” ซึ่งมีภูเขาขยะกองมหึมาที่ไม่มีระบบการบำบัดใด ๆ อยู่ตรงกลาง ทำให้น้ำเน่าเสียจากขยะที่ทับถมกันเป็นเวลานานไหลซึมไปยังแหล่งน้ำและพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงในระยะ 4 กิโลเมตร และพบว่าน้ำในคลองหลังค่ายวชิราวุธที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร มีสีดำสนิท และมีกลิ่นเหม็นโชยอย่างรุนแรง ตลอดเวลา สัตว์น้ำเกือบทุกชนิดในลำคลองตายทั้งหมดเพราะไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ทั้ง ๆ ที่ลำคลองดังกล่าวเป็นแหล่งอาหารของชาวบ้านมาอย่างยาวนาน รวมทั้งพืชผักตามธรรมชาติที่เคยเป็นแหล่งรายได้ของชาวบ้านได้รับความเสียหายเน่าตายทั้งหมดเช่นกัน
นายธนวรรณ แซ่เตีย เปิดเผยว่า ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 5 ต.ปากพูน หมู่ที่ 1 ต.นาทราย และหมู่ที่ 8 ต.ท่างิ้ว ที่อาศัยอยู่ตลอดแนวสองฝั่งคลองหลังค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 รวม รวมกว่า 300 ครัวเรือน รวมทั้งชาวบ้านในหลายหมู่บ้านของ ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่ด้านทิศตะวันตกของภูเขาขยะอีกหลายร้อยครัวเรือนก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน
“ในพื้นที่บริเวณข้างชาวบ้านจึงไม่สามารถประกอบอาชีพใด ๆ ได้ ทั้งการปลูกข้าว พืชผัก และทำการเกษตรอื่น ๆ แม้แต่หญ้าตามธรรมชาติที่เป็นอาหารโค-กระบือก็เน่าตาย ส่งผลให้ชาวบ้านไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว จึงต้องออกนอกพื้นที่ไปทำงานรับจ้าง บ่อน้ำในหมู่บ้านใช้อุปโภคบริโภคไม่ได้ นอกจากนี้โคกระบือจะขาดอาหารแล้วยังไม่กล้ากินน้ำในลำคลองหรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติอื่น ๆ ชาวบ้านในหมู่บ้านโดยเฉพาะเด็ก ๆล้มป่วยเป็นโรคเท้าเปื่อย ท้องเสีย มีผดผื่นคันตามมือและเท้า และทนสูดดมกลิ่นเหม็นมาตลอด ส่งผลกระทบต่อวีถีการดำรงชีวิตมาแสนสาหัส โดยในปัจจุบันชาวบ้านอาศัยอยู่อย่างยากลำบากเร้นแค้นแสนสาหัส
นายธนวรรณ แซ่เตีย กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช เข้ามาดำเนินการเรื่องการกำจัดขยะเกือบ 30 ปี ก็ไม่มีปัญหารุนแรงเหมือนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ ในปัจจุบันขยะที่ถูกนำมาทิ้งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นถูเขาขยะขนาดใหญ่ที่ไร้ซึ่งระบบการบำบัดใด ๆ น้ำเน่าเสียไหลซึมไปยังพื้นที่ใกล้เคียงสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆโดยชาวบ้านใน 4 ตำบลดังกล่าวรวมตัวร้องเรียนขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชหลายครั้ง แต่เทศบาลก็ทำได้เพียงแค่การนำน้ำจุลินทรีย์เรื่องก็เงียบหายไม่มีการแก้ไขปัญหาใด ๆ แม้แต่น้อย
“ชาวบ้านจึงอยากฝากสื่อมวลชนไปยังผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงและสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ เพื่อหาวิธีการแก้ไขช่วยเหลือชาวบ้านด้วย เพราะชาวบ้านต้องการมีชีวิตอยู่อย่างปกติสุขเหมือนเดิม”.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
12 มิ.ย. 2557