(15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีการก่อเหตุอาชญากรรมต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติดก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เปิดเผยหลังการเป็นประธานการระดมกำลังปล่อยแถวระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรมตามแผน“ยุทธการสายฟ้าล่าอาวุธปืนและยุทธการล้างผลาญยาเสพติด” สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่าในระยะนี้เราจะเพิ่มความเข้มในการกวาดล้างอาชญากรรมโดยเฉพาะอาวุธปืนและยาเสพติด ซึ่งตนมีคำสั่งให้ทุกโรงพักเร่งปฏิบัติการตามแผนยุทธการสายฟ้าล่าอาวุธปืนและยุทธการล้างผลาญยาเสพติด” และให้ระดมกำลังกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง
“ในส่วนของยาเสพติดตนได้ประกาศนโยบายไปแล้วว่าจะต้องล้างผลาญยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ให้ได้ โดยจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดทั้งการจับกุมดำเนินคดี การติดตามยึดทรัพย์สินของขบวนการค้ายาเสพติด ที่สำคัญหากในการเข้าจับกุมผู้ต้องหาต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้มาตรการวิสามัญฆาตกรรมได้ทันที ที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชตำรวจจับตาแก๊งค้ายาเสพติดไปแล้ว 3 ราย”
ทางด้าน พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมือง กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ค. 2557 ตำรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการตามแผนยุทธการสายฟ้าล่าอาวุธปืนและยุทธการล้างผลาญยาเสพติด” โดยใช้กำลังตำรวจและ อส.ตร.กว่า 160 นายร่วมปฏิบัติหน้าที่ทั้งการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ทั่วพื้นที่รับผิดชอบทั้งรอบในและรอบนอกรวม 10 จุด การจัดชุดลาดตระเวนหรือชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 3 ชุดออกปฏิบัติหน้าที่ในช่วง 19.00-24.00 น. สามารถจับกุมคดี พ.ร.บ.ยาเสพติดทั้งผู้ค่า ผู้เสพได้จำนวนมาก รวมทั้งจับกุมอาวุธปืนได้หลายกระบอกด้วย ซึ่งจะรวบรวมผลงานแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเสร็จสิ้นพิธีปล่อยแถวระดมกำลังกวาดล้าง ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจและ อส.ตร. ได้เข้าประจำจุดปฏิบัติการที่กำหนดและเริ่มปฏิบัติตรวจค้น พบว่าในช่วง 1 ชั่วโมงแรกสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในคดีต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากนั้นไม่พบการกระทำผิดคาดว่ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจะมีการโทรศัพท์หรือส่งไลน์แจ้งบอกเพื่อน ๆ ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจ จุดสกัดบริเวณใดบ้าง ทำให้กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดรู้ตัวไม่กล้าผ่านไปในจุดดังกล่าว
ส่วนที่จุดสามแยกวัดโพธิ์เสด็จ ถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จ จ.นครศรีธรรมราช ชุดปฏิบัติการนำโดย ร.ต.ท.พศวีย์ จันทร์ทอง รอง สวป.สภ.เมือง พร้อมกำลังตำรวจ 5 นาย อส.ตร. 15 นาย ได้ตั้งจุดสกัดจนกระทั้งมีชายฉกรรจ์เป้าหมายคนหนึ่งขับรถ จยย.ผ่านมาเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดสกัดจึงแกล้งขับรถช้า ๆ ทำท่าจะหยุดรถเพื่อให้ตรวจค้น แต่เจ้าเจ้าหน้าที่เผลอกลับกำลังเร่งเครื่องรถ จยย.ขับแหกด่านพร้อมปาทิ้งห่อกระดาษเล็ก ๆ ทันที อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ อส.ตร.จำนวน 4 นายซึ่งสกัดอยู่ด้านหน้าห่างจากจุดสกัดประมาณ 100 เมตร ได้ออกมาสกัดจับกุมวัยรุ่นคนดังกล่าวเอาไว้ได้ทราบชื่อนายจีรวัฒน์ เทียมทัน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/99 หมู่ 1 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน ขคฉ-209 นครศรีธรรมราช 1 คัน และจากการตรวจสอบห่อกระดาษฟอยล์เล็ก ๆ ที่วัยรุ่นคนดังกล่าวปาทิ้งมียาบ้าอยู่จำนวน 3 เม็ด จึงทำการตรวจปัสสาวะพบว่ามีปัสสาวะสีม่วง
นายจีรวัฒน์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตัวเองเป็นทายาทของเจ้าของธุรกิจค้าพืชผลทางการเกษตรรายใหญ่ในตลาด “บัวตอง” เพิ่งเสพยาบ้าและกำลังจะขับรถไปบ้านเพื่อนแต่ถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้ค้ายาเสพติดแต่เป็นเพียงผู้เสพเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมสอบสวนขยายผลในคดีนี้ต่อไป.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
15 พ.ค. 2557