(14 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการเข้าไปแชร์ภาพและข้อความในเฟซบุ๊คของผู้ที่ใช้ชื่อว่า “บรรเจิด จำรัสกาญจน์” ที่ถ่ายภาพตัวเองที่มีรอยหม้ายบริเวณลำคอด้านซ้าย และมีตุ่มพองในบริเวณใกล้เคียง พร้อมระบุข้อความว่า “ ผมโดนแมงอันตรายกัดที่โรงพยาบาล ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบครับ (รายการตี 10 บอกว่าแมงจำพวกนี้มันอาศัยอยู่ต่างประเทศอ่ะ ประเทศไทยไม่มี แต่วันนี้ประเทศนครศรีธรรมราชมีเยอะมาก ผมเป็นคนหนึ่งที่โดนมันทำร้ายจนบาดเจ็บต้องนอนโรงพยาบาลอยู่ตอนนี้ ) ทุกคนช่วยแชร์กันหน่อยนะครับ” ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์ภาพรวมทั้งข้อความออกไปอย่างกว้างขวาง
ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานงานติดต่อกับเจ้าของเฟซบุ๊ครายดังกล่าวที่นอนรักษาตัวที่อยู่ที่ รพ.นครินทร์ ริมถนนอ้อมค่ายวชิราวุธ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่าชื่อนายบรรเจิด จำรัสกาญจน์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 692 ซอยสารีบุตร ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นพนักงานขายตรงของบริษัทซูเลียน จำกัด สาขานครศรีธรรมราช ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2557 ตนได้ประสบอุบัติเหตุตกบันไดจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเข้ารับการักษาตัวที่ รพ.นครินทร์ โดยใช้สิทธิ์ที่ทำประกันอุบัติเหตุไว้กับบริษัทประกันภัยบริษัทหนึ่ง จนเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2557 ตนสังเกตพบแมลงก้นกระดกจำนวนมากเกาะอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั้งบริเวณระเบียงห้องพัก ภายในห้องน้ำ รวมทั้งภายในห้อง
“ในขณะนั้นตนไม่ทราบว่าเป็นแมลงก้นกระดกที่มีพิษร้ายแรงและตกเป็นข่าวใหญ่โตทางสื่อมาหลายครั้ง ตนจึงไม่สนใจมากนัก จนเมื่อตนนอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้ก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนบริเวณลำคอ จึงตกใจตื่นขึ้นมาพบแมลงก้นกระดกเกาะอยู่ใกล้ ๆ กับลำคอของตน 1 ตัว ตนจึงจับใส่ถึงพลาสติกเอาไว้และสอบถามแพทย์ พยาบาล ทางแพทย์จึงจัดยาแก้แพ้พิษแมลงให้กินพร้อมให้ยามาทาบรรเทาอาการปวด จากนั้นได้อนุญาตให้ตนกลับบ้านได้ ตนจึงกลับไปนอนที่บ้าน 1 คืน แต่พบว่ารอยหม้ายจากพิษแมลงก้นกระดกขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น และยังมีฝื่นตุ่มพองกระจายไปทั่วลำคอและบริเวณข้างเคียง ตนจึงได้ถ่ายภาพแมลงตัวดังกล่าวสอบถามเพื่อน ๆ ในเฟซบุ๊ค เพื่อน ๆ จึงบอกว่าเป็นแมลงก้นกระดกที่เคยเป็นข่าวหลายครั้ง เป็นแมลงที่มีพิษร้ายแรงมาก หากพิษโดนดวงตาอาจจะทำให้ตาบอดได้”
นายบรรเจิด กล่าวอีกว่าตนจึงตัดสินใจเดินทางกลับมาที่ รพ.นครินทร์ อีกครั้ง โดยแพทย์ได้รับตัวเข้ารับการรักษาและใช้สิทธิ์รักษาจากประกันอุบัติเหตุของตนเหมือนเดิม โดยระบุว่าประสบอุบัติเหตุถูกแมลงมีพิษกัด ในขณะที่นอนพักรักษาตัวก็ยังพบแมลงก้นกระดกเกาะอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั้งบริเวณระเบียงหลังห้อง ในห้องน้ำ รวมทั้งในห้องพัก ตนจึงขอย้ายห้องมานอนพักรักษาตัวอีกห้องหนึ่งพร้อมปิดประตูอย่างแน่นหนาไม่ให้แมลงร้ายเข้ามาภายในห้องได้ อย่างไรก็ตามตนสามารถจับแมลงก้นกระดกได้อีก 3 ตัวใส่ถุงพลาสติกเอาไว้ ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ของ รพ.นครินทร์ มาขอแมลงก้นกระดกจากตนเพื่อนำไปให้ผู้บริหารโรงพยาบาลตรวจสอบ ตนจึงมอบแมลงก้นกระดกไปให้ 2 ตัว แต่เจ้าหน้าที่จะขอตนทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งตนไม่ยอมให้อ้าวว่าจะเก็บไว้ให้เพื่อน ๆ ที่มาเยี่ยมดูว่าที่โดนพิษของแมลงชนิดนี้ทำให้เกิดรอบหม้ายเกรียมที่ลำคอ และยังเกิดฝืนตุ่มพุพองอีกหลายแห่ง
“ตนจึงอยากจะฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอย่าสัมผัสแมลงชนิดนี้เป็นอันขาด และที่ระบุกันว่าเป็นแมลงจากต่างประเทศ ในประเทศไทยมีน้อยคงไม่เป็นความจริง เพราะตนเห็นกับตาว่าอาศัยอยู่ภายใน รพ.นครินทร์ เป็นจำนวนมาก ตนจังได้ 4 ตัว และยังเหลืออีกจำนวนมาก ที่สำคัญหลังเกิดเหตุตนมีความรู้สึกว่าทาง รพ.นครินทร์ ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากนัก จึงอยากเรียกร้องให้ทางโรงพยาบาลให้ความสำคัญและหามาตรการในการป้องกันหรือกำจัดแมลงก้นกระดกให้หมดไปจากโรงพยาบาลโดยเร็ว” นายบรรเจิด กล่าวในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีเพื่อน ๆ ของนายบรรเจิด รวมทั้งคนไข้และญาติคนไข้ใน รพ.นครินทร์ ที่ทราบข่าวเดินทางเข้าเยี่ยมนายบรรเจิด และขอดูแมลงก้นกระดกที่นายบรรเจิดจับใส่ถุงพลาสติกซึ่งเหลือจากการมอบให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล 2 ตัวอย่างต่อเนื่อง โดยต่างยืนยันว่าเห็นแมลงชนิดเดียวกันนี้อาศัยอยู่ในโรงพยาบาลนครินทร์เป็นจำนวนมาก และโชคดีที่ยังไม่โดนพิษร้ายของมันเหมือนนายบรรเจิด
สำหรับแมลงก้นกระดกภาษาหนังสือพิมพ์เรียกว่า “แมลงเฟรชชี่” แต่ชาวบ้านร้านตลาดและนักศึกษาทั่วไปจะรู้จักมันในชื่อ “ด้วงก้นกระดก” หรือ “แมลงก้นกระดก” บางพื้นที่เรียกว่า “แมลงน้ำกรด”โดยแมลงด้วงก้นกระดกนี้ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Paederus fuscipes และมีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Rove beetlesโดยปกติแล้วเป็นแมลงที่มีประโยชน์ในฐานะตัวห้ำที่คอยกินแมลงตัวเล็กๆจึงพบมากในพื้นที่การเกษตร นอกจากนี้ยังสามารถพบได้ในแถบชานเมือง แมลงก้นกระดกลักษณะเป็นแมลงตัวยาวๆสีดำสลับส้ม ในตัวมันจะมีสารที่เป็นพิษกับผิวหนังของคน ทำให้เกิดการระคายเคืองและเกิดการอักเสบได้ การอักเสบของผิวหนังที่เกิดขึ้นจะเริ่มจากเป็นรอยทางแดงๆ จากนั้นก็จะเริ่มมีตุ่มน้ำพองขึ้นมา บางคนที่คันปวดแสบปวดร้อนจนมีการเกามาก ๆ อาจจะเกิดเป็นรอยสีน้ำตาลแดงและเกิดเป็นฝื่นตุ่มหนองกระจายไปเป็นบริเวณกว้างทั่วร่างกายได้ แต่ส่วนมากแล้วมักจะอยู่แค่การเจ็บแสบร้อนผิวหนัง หากทิ้งไว้ระยะหนึ่งก็สามารถหายเองได้ยกเว้นก็แต่เข้าตา หรือถูกพิษเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับคนที่โดนมีอาการแพ้พิษแพ้มาก หรือมีการเกาจนติดเชื้อซ้ำซ้อนอาจจะกลายเป็นปัญหารุนแรงตามมาได้.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
14 พ.ค. 2557