เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 พ.ค.2557 คณะทำงานประสานปฏิบัติการพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชของสำนักงาน ปปส.ภ.8 นำโดยนายอดุลย์ งามผิว นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ปปส.ภ.8 พร้อมด้วยผู้แทนจาก ป.ป.ส.ส่วนกลาง และเจ้าหน้าที่ทีมวิจัยศูนย์เครือข่ายเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน (ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน) สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ลงพื้นที่เก็บข้อมูลปัญหายาเสพ ติดตามแผนการดำเนินงานพื้นที่ 5 ชุมชนเฝ้าระวังสูงสุดในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านปากน้ำปากนคร ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายสุรชัย ไล่ชะพิษ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.ปากนคร คณะกรรมการหมู่บ้าน/ชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ให้การต้อนรับและให้ข้อมูล
นายอดุลย์ งามผิว กล่าวว่า การลงพื้นที่คณะทำงานประสานปฏิบัติการพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชของสำนักงาน ปปส.ภ.8 และเจ้าหน้าที่ทีมวิจัยศูนย์เครือข่ายเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน (ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน) สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เพื่อสอบถามข้อมูลในด้านต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ประกอบการประเมินผลการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ชุมชนเฝ้าระวังสูงสุด 5 แห่ง หรือ TOP 5 ตามแผนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดประจำปีงบประมาณ 2557 ผู้ให้ข้อมูลการปฏิบัติงานในพื้นที่หมู่บ้าน ประกอบด้วยแกนนำกลุ่มต่าง ๆในหมู่บ้าน เช่น กรรมการหมู่บ้าน สท. ชรบ. อสม. ตชด. ชมรมอาสาฯ ตัวแทนภาคประชาชนและสื่อมวลชน
ในการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด 5 ชุมชนเฝ้าระวังสูงสุดในพื้นที่ภาค 8 นั้นมีหมู่บ้าน/ชุมชนเฝ่าระวังสูงสุดอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 3 หมู่บ้าน/ชุมชน ประกอบด้วย หมู่ 1 หมู่ 3 ต.ปากนคร และชุมชนมะขามชุม เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ในส่วนของหมู่ 1 กับหมู่ 3 ต.ปากนคร มีพื้นที่หมู่ 6 ต.ปากนคร อยู่ตรงกลางจึงเป็นทางผ่านเข้าออกของยาเสพติดไปโดยปริยาย คณะทำงาน ฯจึงนำผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้านของหมู่ 6 ต.ปากนคร เข้าร่วมโครงการด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนภาคส่วนต่าง ๆ ได้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะปัญหาและอุปสรรค?สำคัญในการดำเนินงานคือเรื่องงบประมาณไม่มี มีน้อยไม่เพียงพอ เนื่องจากงบประมาณจาก ปปส. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ให้มาดำเนินการในหมู่บ้าน/ชุมขนเป้าหมายจะต้องผ่านหน่วยงานราชการเช่นสถานีตำรวจในพื้นที่หรือฝ่ายปกครอง ทำให้งบประมาณที่ตกถึงหมู่บ้าน/ชุมชนถูกหน่วยงานดังกล่าวฮุบเกือบทั้งหมดเอาไว้ จ่ายถึงหมู่บ้าน/ชุมชนจริง ๆ เพียงเล็กน้อยไม่เกิน 10 เปอร์เซนต์ เช่น ปปส.ให้งบ 120,000 บาท ได้ถึงมือหมู่บ้าน/ชุมชนจริง ๆ แค่ 20,000-30,000 บาทเท่านั้น ทำให้งบประมาณไม่มีเพียงพอในการดำเนินการ หากสามารถแก้ปัญหาให้งบประมาณลงมาถึงหมู่บ้าน/ชุมชนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเชื่อว่าจะทำให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จมากกว่าที่ผ่าน ๆ มาอย่างแน่นอน.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
4 พ.ค. 2557