(15 เม.ย. 2557) บรรยากาศการจัดงาน “เทศกาลมหาสงกรานต์แห่นางดาน อลังการตำนานเมืองนคร” จังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปี 2557 มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเริ่มทยอยเข้ากราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่าน มา(14 เม.ย.)นักท่องเที่ยวและประชาชนหลายพันคนเข้าร่วมในพิธีแห่นางดาน ประเพณีทางศาสนาพราหมณ์ หรือฮินดู ที่ยังมีการจัดหนึ่งเดียวในเมืองไทย บริเวณหอพระอิศวร ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
โดย ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช เป็นประธานในการประกอบพิธีกรรมบวงสรวงพระอิศวรที่บริเวณพระสยม ตลาดท่าชี จากนั้นขบวนแห่นางดานได้เคลื่อนผ่านโรงพยาบาลเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ตลาดท่าม้า เพื่อไปประกอบพิธีที่หอพระอิศวร ริมถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยที่หอพระอิศวรจะมีพิธี “ตรียัมปวาย”และการ“โล้ชิงช้า” ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเที่ยวที่รอชมสองข้างทางและเข้าร่วมชมการจัดแสดงแสง สี เสียงและสื่อผสม ชุด “แห่นางดานอลังการตำนานเมืองนคร” บริเวณหอพระอิศวร แต่เนื่องจากเทศบาล ฯคาดไม่ถึงว่าจะมีคนเข้าชมและร่วมกิจกรรมจำนวนมากจึงจัดอัฒจันทร์และจุดนั่งชมไว้เพียง 1,000 ที่นั่งเท่านั้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวและประชาชนอีกหลายพันคนไม่สามารถเข้าชมได้
สำหรับประเพณีแห่งนางกระดานหรือที่ชาวนครศรีธรรมราชเรียกว่า “นางดาน” เป็นประเพณีตามตำนานและความเชื่อของผู้ที่นับถือศาสนาพราหมณ์ ที่ว่าในช่วงระหว่างวันขึ้น 7 ค่ำ เดือนอ้าย จนถึงวันแรม ๑ ค่ำ เดือนยี่ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ พระศิวะหรือพระอิศวรจะเสด็จลงมายังโลกมนุษย์เป็นระยะเวลา 10 ราตรี เพื่อประทานพรให้โลกมนุษย์อยู่กันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข โดยพระอิศวรจะบันดาลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ในทุก ๆ ด้าน ดังนั้นบรรดามนุษย์และเทพชั้นรองทั้งหลายจึงจัดพิธีต้อนรับด้วยการแห่ไม้กระดาน 3 แผ่น ที่แกะสลักเป็นรูปเทพชั้นรอง 4 องค์ ประกอบด้วยแผ่นที่ 1 รูปพระอาทิตย์ พระจันทร์ แผ่นที่ 2 รูปพระแม่คงคา และแผ่นที่ 3 รูปพระแม่ธรณี (ชาวนครศรีธรรมราชเรียกไม้กระดานที่แกะสลักว่า “นางดานหรือนางกระดาน” เพื่อไปต้อนรับพระอิศวรที่เชื่อกันว่าจะเสด็จลงมาทางเสาชิงช้า จากนั้นจะมีพิธี “ตรียัมปวาย” และ “โล้ชิงช้า”ตามลำดับ
โดยการจัดการแสดงเป็นไปอย่างตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะในช่วงการโล้ชิงช้าที่ทำการโล้ 3 รอบ ๆ ละ 4 คน โดยขึ้นไปอยู่บนแผ่นกระดานชิงช้า 2 คน อีก 2 คนทำหน้าที่ชักเชือกโล้ชิงช้า นักท่องเที่ยวและประชาชนต่างลุ้นเชียร์กันและส่งเสียงฮือฮาตามจังหวะการโล้ชิงช้าด้วยความหวาดเสียว เพราะเกรงว่าคนที่อยู่บนกระดานชิงช้า 2 คนจะพลัดตกลงมาชเหมือนเมื่อครั้งสมัยรัชกาลที่ 7 ที่มีการโล้ชิงช้าจนคนพลัดตกลงมาเสียชีวิต จึงมีพระบรมราชโองการสั่งให้ยุติการประกอบพิธี “ตรียัมปวายและโล้ชิงช้า” เมื่อปี พ.ศ. 2474 จนต่อมาในปี 2544 นางสาวกิตติกา ลิขิตวศินกุล ผอ.ททท.สำนักงานภาคใต้ เขต 2 ในขณะนั้นได้ฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยว และจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2544 หลังยกเลิกการโล้ชิงช้าไปนานถึง 70 ปีพอดี
อีกช่วงหนึ่งที่นักท่องเที่ยวและประชาชนที่นั่งชมด้านในใกล้ชิดกับพื้นที่การแสดงต้องลุ้นระทึกคือการช่วงที่นาลิวัน หรือพญานาครำเสนง หรือรำเขาสัตว์ก่อนเข้าไปวักน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากขันสาครขนาดใหญ่สาดข้ามศรีษะไปโดนนักท่องเที่ยวและประชาชนที่อยู่ใกล้ ๆ จนเสื้อผ้าและเนื้อตัวเปียกปอนไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะบรรดาผู้สื่อข่าวจะต้องถ่ายภาพในช่วงนี้ให้จนได้ เพราะจะได้ภาพน้ำที่กระจายไปกระทบกับแสงและสีทำให้ได้ภาพที่สวยงามที่สุดของประเพณีแห่นางดาน หากช่างภาพสื่อมวลชนคนใดไม่สามารถถ่ายภาพในช่วงนี้ได้ถือว่าไร้ซึ่งความสามารถ จึงเป็นช่วงที่ท้าทายบรรดาช่างภาพสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก ต่างพยายามนำกล้องถ่ายภาพนิ่ง กล้องวีดีโอหลบน้ำที่สาดเข้าใสอย่างรุนแรงต่อเนื่อง แต่มีช่างภาพสื่อมวลชนหลายคนที่กล้องโดนน้ำเข้าเต็ม ๆ ส่งผลให้กล้องที่ส่วนใหญ่เป็นกล้องดิจิตอลขัดข้องเสียหายไปตาม ๆ กัน
หลังจากการรำเสนงเขาสัตว์วักน้ำพระพุทธมนต์เสร็จสิ้นถือเป็นการเสร็จสิ้นพิธีกรรมของประเพณีแห่นางดาน แต่ในปีนี้ทางเทศบาล ฯได้มีการจัดกิจกรรมรำชุดพิเศษพร้อมจุดเทียนถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในช่วงที่ผู้บริหารเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชและผู้เกี่ยวข้องจะร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับบรรดานักแสดงทั้งหมด แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากนักท่องเที่ยวและประชาชนนับพันคนต่างวิ่งกรูกันไปแย่งตักน้ำพระพุทธมนต์ในขันสาครใส่ขวดพลาสติกหรือภาชนะอื่น ๆ ที่จัดเตรียมมาล่วงหน้า เพื่อใช้ดื่มกินและนำกลับไปเก็บไว้ที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล ส่งผลให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายไปพักหนึ่งและน้ำพระพุทธมนต์ในขันสาครหมดไปอย่างรวดเร็ว โดยนักท่องเที่ยวและประชาชนอีกหลายพันคนต่างผิดหวังที่ไม่ได้น้ำพระพุทธมนต์ติดไม้ติดมือกลับไปบ้าน จึงลงทุนควักกระเป๋าซื้อน้ำพุทธมนต์จากคนอื่น ๆ โดยให้ค่าตอบแทนถึงขวดละ 100 บาทขึ้นไป.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
15 เม.ย.2557