ReadyPlanet.com
dot dot
2 ฝ่ายเปิดหน้าสู้ การเมืองหลังสงกรานต์ ต้าน-หนุน"รัฏฐาธิปัตย์"



       โดยมีเงื่อนไขสำคัญในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าจะให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีทุกคน พ้นสภาพไปหรือไม่ กรณีการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด 
       หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ปฏิบัติหน้าที่นายกฯและ ครม.พ้นสภาพ ย่อมส่งผลให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขให้ทั้งสองกลุ่มที่ชุมนุมทางการเมืองนำมวลชนออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนและคัดค้านแนวทาง"รัฏฐาธิปัตย์" ที่มวลชนกลุ่ม กปปส.ออกมานำเสนอแนวทางดังกล่าว
       แน่นอนมวลชนกลุ่ม นปช. และกลุ่มพลังที่สาม ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทาง"รัฏฐาธิปัตย์" จะออกมาแสดงพลังต่อต้าน เพื่อไม่ให้แนวทางดังกล่าวเกิดขึ้นได้ เพราะขัดทั้งหลักกฎหมายและรัฐธรรมนูญ หากยังดึงดันจะให้เกิดรูปแบบ รัฏฐาธิปัตย์ คงต้องมีการฉีกรัฐธรรมนูญ และสุ่มเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความรุนแรงหากมีการเผชิญหน้าของมวลชน ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย 
       สำหรับทิศทางการเมืองในโหมดที่ทุกฝ่ายเปิดหน้าชกกันอย่างเต็มที่หลังจากนี้นั้นพล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธี สถาบันพระปกเกล้า ประเมินว่า กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.และ นปช.ท้าดวลวัดระดับมวลชน ในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญและ ป.ป.ช.จะวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่า เป็นเพียงการแสดงกำลังเท่านั้น เหมือนวันที่ นปช.ชุมนุมบริเวณถนนอักษะเมื่อช่วงวันที่ 5-6 เมษายนที่ผ่านมา และเชื่อว่าการชุมนุมของทั้งสองกลุ่มจะเกิดการปะทะกันยาก หากผู้ชุมนุม นปช.ไม่มีการเคลื่อนพลเข้ามาในกรุงเทพฯ ซึ่งสถานการณ์ในกรุงเทพฯตอนนี้แตกต่างจากปี 2553 ที่ นปช.เคยตั้งเวที คนในกรุงเทพฯไปร่วมชุมนุมกับ กปปส.เยอะ ดังนั้นการเคลื่อนตัวเข้ามาอาจจะมีการกระทบกระทั่งกัน นอกจากนี้อาจจะรุนแรงด้วยมือที่ 3 อย่างไรก็ตาม มองว่าการชุมนุมของทั้งสองฝ่ายสามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิ แต่อาจจะผิดกฎหมายเกี่ยวกับการจราจร เพราะมีการปิดถนน สร้างความเดือดร้อน 
      ส่วนเรื่องการปราศรัยของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เกี่ยวกับการประกาศตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์นั้น พล.อ.เอกชัยมองว่า นายสุเทพมีความคิดเช่นนี้มานานแล้ว ไม่ได้ถือว่าพูดเร็วเกินไป ซึ่งโอกาสที่จะทำเรื่องนี้ให้ประสบความสำเร็จไม่ได้ง่าย และตอนนี้ก็มีการพยายามตีความกันเป็นการล้มล้างการปกครอง หรือเป็นรัฐศาสตร์รูปแบบหนึ่ง แต่ในความจริง คือ การปฏิวัติทางภาคประชาชน โดยการนำอำนาจกลับมาคืนที่ประชาชนและประชาชนเป็นผู้บริหารประเทศเอง แม้หลังการปราศรัยของนายสุเทพเสร็จสิ้น จะมีการออกมาชี้แจงพยายามเลี่ยง เพื่อไม่ให้ความคิดว่าจะเป็นการล้มล้างการปกครอง แต่อย่างไรแม้นายสุเทพไม่ได้พูดโดยตรงว่าเป็นการปฏิวัติ แต่ก็เป็นความพยายามต้องการให้เกิดช่องว่าง เมื่อมีช่องว่างจะได้มีภาคประชาชนไปยึดอำนาจของรัฐ และจึงเรียกว่ารัฏฐาธิปัตย์ มองว่าการทำอย่างนี้สุ่มเสี่ยงเพราะขณะนี้ดีเอสไอ รัฐบาล ได้มีการไปยื่นหลักฐานที่แสดงว่า ทาง กปปส.พยายามล้มล้างการปกครอง และต่อไปทาง กปปส.ก็ต้องสู้ว่าจริงหรือไม่
      สำหรับการเมืองไทยหลังจากนี้จะมีทิศทางอย่างไรนั้น พล.อ.เอกชัยวิเคราะห์ว่า การเมืองหลังจากนี้จะยืดเยื้อไปอีก 3-6 เดือน เพราะแม้จะมีการเลือกตั้ง ส.ว.ไปแล้ว 58 คน แต่ก็ยังไม่ครบ ซึ่งกว่าจะครบน่าจะใช้เวลาพอสมควร 
      ส่วนในช่วงสิ้นเดือนนี้ก็จะต้องมีการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ต้องรอดูว่า กกต.ต้องการให้การเลือกตั้งสำเร็จหรือไม่ ถ้าต้องการให้การเลือกตั้งสำเร็จมันก็สำเร็จ ด้านการชุมนุม กปปส.ก็ไม่สามารถหยุดได้ เพราะหากหยุดเมื่อไหร่ต้องโดนดำเนินคดี และหนทางเดียวของ กปปส.ที่จะสำเร็จ คือทำให้รัฐธรรมนูญหยุดเดิน การชัตดาวน์กรุงเทพฯที่ผ่านมาก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ตอนนี้คือต้องการให้มีสุญญากาศ มีช่องว่างเกิดการปฏิวัติ อย่างไรก็ตามหากทำได้จริงต้องมีสงครามกลางเมือง เพราะ นปช.ประกาศชัดส่งสัญญาณเตรียมบุกเข้ากรุงเทพฯ และการเกิดสุญญากาศจะทำให้การทำงานในภาพรวมส่วนราชการไม่มีคนสั่งการ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือข้าราชการทั้งหมด และเมื่อมีเหตุลุกลามบานปลายก็ไม่มีใครคุมได้ ส่วนหลังจากนี้หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนายกฯต้องสิ้นสภาพ ก็จะมีการตีความอีกหลายอย่าง เช่น ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจ รัฐบาลไม่ได้อยู่ในตำแหน่งอยู่แล้ว เป็นเพียงรักษาการ ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินได้อย่างไร 

แต่ทั้งนี้เชื่อว่าคำตัดสินออกมาอย่างไรรัฐบาลต้องปฏิบัติตามเพราะหากขัดขืนก็จะโดนดำเนินคดียุบพรรคต่อไป


 

 

 

(ที่มา:มติชนรายวัน 9 เมษายน 2556)

 




รายงานพิเศษ

ขอเชิญชวนประชาชนที่มีภูมิลำเนาในเขตเทศบาล เสนอรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง
“มท.1”ยัน สำรวจประชากรแล้ว รอครม.เคาะเลือกตั้งท้องถิ่น
กกต.เชิญชวนสมัครฯ กกต.ท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 3 ถึง 7 กุมภาพันธ์ 63 นี้ ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ท่านสนใจสมัครฯ
สัญญาณ ภาคใต้ ไขวิกฤต การเมืองไทย ลึกซึ้ง กว้างขวาง
ถอดรหัสปฏิทิน"กกต.สมชัย"
อย่ามองข้าม ไฟไหม้หญ้าในเขตเมือง



dot
dot
bulletจังหวัดนครศรีธรรมราช
bulletตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช
bulletม.วลัยลักษณ์
bulletม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช
bulletพยากรณ์อากาศ
dot
dot
bulletห้องสมุดดิจิตอล
bulletค้นหาหมายเลขโทรศัพท์
bulletตรวจล็อตตารี่
dot

dot
bulletฟัง FM 87.60MHzคลื่นความคิด คิดดี ทำดี ที่นี่เมืองนคร


มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา


สำนักข่าวนครโพสต์ เลขที่ 5/1 ซ.อัศวรักษ์ 1 ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 80000 โทร.075-320227 โทรสาร 075-320716 อีเมลล์ : nakhonpost@hotmail.com