(15 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานการจัดพิธีมงคลสมรสของคู่บ่าวในช่วงปี 2557 โดยคู่บ่าวสาวที่สร้างความฮือฮาเป็นที่สนใจของคนทั่วไปมาตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. 2557 คือ นายนันทโนราห์ ธรรมชาติ อายุ 25 ปี อาชีพช่างภาพประจำบริษัทมีดี มีเดียกรุ๊ป ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ออกอากาศทาง “นครเคเบิ้ลทีวี “ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่ช่างภาพฝีมือดีคนหนึ่งและเป็นที่รู้ จักมักคุ้นของผู้คนในจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นอย่างดี ส่วนว่าที่เจ้าสาวสุดสวยคือ น.ส. ชมาพร ปรางค์ละออ อายุ 23 ปี พนักงานบริษัทเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งทั้งคู่ต้องการสื่อให้เห็นว่าในอนาคตทั้งสองจะเป็นของเก่าของกันและกัน แต่จะเป็นของเก่าที่มีค่าแก่กันตลอดไป จึงเลือกโกดังรับซื้อของเก่าของนายจามร เจริญอภิบาล อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ริมถนนหลังวัดศรีทวี ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นโลเกชั่นในการถ่ายภาพกับกองขยะและของเก่าเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกและไว้โชว์ในพิธีฉลองมงคลสมรสของคู่บ่าวสาว ในวันที่ 13 มี.ค.2557 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะสื่อมวลชนทุกแขนงทั้งในส่วนกลางและในท้องถิ่นให้ความสนใจนำเสนอข่าวกันอย่างกว้างขวาง
สำหรับในวันประกอบพิธีมงคลสมรส วันที่ 13 มี.ค. 2557 ขบวนขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าวได้รวมตัวตั้งขบวนกันที่สนามโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช 2 โดยใช้วงดุริยางค์ของ โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราชซึ่งเป็นโรงเรียนที่เจ้าบ่าวเคยเรียนอยู่ในสถาบันแห่งนี้มาก่อนนำหน้าขบวน แต่ที่สร้างสีสันต์ให้กับขบวนขันหมากจนเป็นที่สนใจของผู้คนก็คือการแต่งกายของผู้ถือขันหมากและร่วมขบวนแห่ขันหมาก ในกลุ่มผู้หญิงนำโดยนางจิรายุณัฐ สุวรรณรัตน์ ภรรยาของ พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และเพื่อน ๆในวงการสื่อสารมวลชน จะแต่งกายแบบย้อนยุคโบราณเมืองนคร นุ่งโจงกระเบนด้วยผ้ามัดย้อมจากหมู่บ้านคีรีวงและเรียกตัวเองว่า “ผีนางตานี” ในขณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นเพื่อน ๆ ในกลุ่ม “เร้กเก้ “ แต่งกายด้วยผ้ามัดย้อมคีรีวงนุ่งโจงกระเบนไม่สวมเสื้อ เรียกตัวเองว่า “ผีตะเคียน”
ส่วนนายนันทโนราห์ ธรรมชาติ เจ้าบ่าวแต่งกายด้วยชุดผ้าไหมไทยโจงกระเบน และรับหน้าที่เป็นดรัมเมเยอร์ นำหน้าวงดุริยางค์ด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผลที่ว่าในตอนที่เรียนอยู่โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช มีความ ไฝ่ฝันที่จะเป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน จึงไปสมัครกับอาจารย์ที่ควบคุมวงดุริยางค์ แต่ได้รับการปฏิเสธเนื่องจากตนตัวเตี้ยและไม่หล่อ จึงมีความคิดว่าในวันแต่งงานของตัวเองจะใช้วงดุริยางค์แห่นำขบวนขันหมากและขอเป็นดรัมเมเยอร์ด้วยตัวเอง
โดยในเวลา 09.19 น.ขบวนแห่ขันหมากเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสนามหน้าโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช(2 ) เลี้ยวขาวขึ้นถนนข้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เลี้ยวซ้ายขึ้นถนสนามหน้าเมืองผ่านหน้าศาลหลักเมืองตรงไปออกถนนราชดำเนินบริเวณสี่แยกน้ำพุ สี่แยกประตูขาว โดยวงดุริยางค์จะบรรเลงเพลงในจังหวะรำวงและสามช่า ในขณะที่นายนันทโนราห์ เจ้าบ่าว และ“กลุ่มผีตะเคียน –ผีนางตานี” ที่จะเน้นเรื่องความสนุกสนาน ตลกขบขันลีลาการร่ายรำตามจังหวะ โดยเฉพาะนายนันทโนราห์ ที่ไม่มีพื้นฐานของการใช้ไม้คฑาเลย และพยายามที่จะควงไม้คฑาและยกไม้คฑาขึ้นชูสลับกันไปมา จนดูเก้ ๆ กัง ๆ ท่ามกลางความสนใจของผู้คนที่สัญจรไปมา จนขบวนขันหมากไปถึง “ร้านละลาน” กลางซอยประตูขาว สถานที่ประกอบพิธีมงคลสมรส นายนันทโนราห์ ได้ตัดสินใจโชว์ลีล่าการโยนไม้คฑา จนไม้คฑาหวิดจะตกลงบนพื้นถนน แต่นายนันทโนราห์สามารถรับเอาไว้ได้ด้วยมือทั้งสองข้างท่ามกลางความหวาดเสียวของอาจารย์ผู้ควบคุมวงดุริยางค์
หลังจากนั้นก็เข้าสู่พิธีมงคลสมรสตามขั้นตอน โดยนายนันทโนราห์ จะต้องผ่านประตูเงิน ประตูทองถึง 3 ด่าน ในด่านแรกนายนันทโนราห์ พร้อม “กลุ่มผีตะเคียน”เพื่อนเจ้าบ่าวได้ตะโกนลั่นว่า “เจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าบ่าวมาแล้ว เจ้าสาวอยู่ไหนโว้ย” ในขณะที่ผีตะเคียนเพื่อนเจ้าบ่าวตะโกนสอบถามว่า “เจ้าสาวอยู่ไหน รีบเอาเจ้าสาวมาให้เจ้าบ่าวเดี๋ยวนี้” ก่อนจะคลักซองใส่เงินออกมามอบให้กับประตูเงินประตูทองทั้ง 3 ด่าน สร้างความสนุกสนานครื้นเครง และได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องซึ่ง น.ส. ชมาพร ปรางค์ละออ เจ้าสาวนั่งรออยู่ด้วยอุ้มหลานสาววัย 3 ขวบ เพื่อทำหน้าที่เช็คให้เจ้าบ่าวอยู่ด้วย หลังจากนั้นนายนันทโนราห์ ได้จูงมือ น.ส. ชมาพร เจ้าสาวออกมาจากห้องและเข้าสู่พิธีมงคลสมรสท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น
ส่วนในภาคกลางคืนมีงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสที่ร้านอาหาร “คันทรีโฮม” โดยมีแขกหรือมาร่วมแสดงความยินดีนับพันคน โดยกลุ่มผีตะเคียนรวมตัวขึ้นบรรเลงดนตรีเอง ในขณะนี้เจ้าบ่าวสาวเจ้าขึ้นเวทีร้องเพลงด้วยตนเองเช่นกัน นับเป็นงานมงคลสมรสที่สร้างความฮือฮาเป็นที่สนใจของผู้คนอย่างกว้างขวางงานหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
15 มี.ค. 2557