เมื่อ 08.30 น. วันที่ 12 มี.ค. 2557 พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ ผกก.สภ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังตำรวจได้ควบคุมตัวนายนายเอกพงศ์ คีรีโชติ หรือช้าง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 2 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องสงสัยฆ่าปาดคอ นางเดือง อู่ทองคำ อายุ 81 ปี ซึ่งเป็นยายของนายเอกพงศ์ หรือช้าง เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 89 หมู่ 2 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 17.40 น.วันที่ 11 มี.ค. 2557 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้เมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 11 มี.ค. 2557 ร.ต.ท. คำนึง บัณฑิต ร้อยเวร สภ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับรับแจ้งว่ามีเหตุฆ่าปาดคอหญิงชราเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 89 หมู่ 2 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ ผกก.สภ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.ประจักษ์ หาญทองพนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ เจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลกะหรอ นายแพทย์เข็มชาติ สว่างวรชาติ แพทย์เวรโรงพยาบาลท่าศาลา และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ภายในบ้านบริเวณฟูกที่นอนในห้องโถงเจ้าหน้าที่พบศพนางเดือง อู่ทองคำ อายุ 81 ปี อาศัยอยู่เกิดเหตุ สภาพศพถูกปาดคอด้วยของมีคมเป็นแผลเหวอะหวะยาวกว่า 10 ซ.ม. ลึกจนหลอดลมขาด 1 แผล นอนหงายเสียชีวิตในชุดสวมเสื้อผ้าแพรแขนสามส่วนสีเลือดหมู นุ่งผ้าถุงลายน้ำตาลคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 ชม. ใต้ที่นอนของนางเดือง พบเงินสดซุกซ่อนอยู่ประมาณ 1 แสนบาท จึงมอบให้นายแย้ม อู่ทองคำ สามีของนางเดื่อง ผู้ตายเก็บเงินสดจำนวนดังกล่าวเอาไว้ จากนั้นจึงนำศพส่ง รพ.ท่าศาลา เพื่อให้แพทย์ตรวจชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านางเดื่อง ผู้ตายอาศัยอยู่กับนายแย้ม อู่ทองคำ อายุ 85 ปี สามีโดยมีลูกสาว ลูกเขย และหลานชายอาศัยอยู่ด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าฆาตกรเหี้ยมรายนี้จะต้องเป็นคนที่รู้จักใกล้ชิดกับนางเดื่อง ผู้ตายอย่างแน่นอน โดยนายแย้ม ซึ่งอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เชื่อว่าคนร้ายรายนี้คือนายเอกพงศ์ คีรีโชติ หรือช้าง ส่วนสาเหตุที่นายช้าง ก่อเหตุฆ่าปาดคอฆ่ายายของตัวเอง ครั้งนี้เพราะนายช้างติดยาเสพติดงอมแงมจนประสาทหลอน ที่ผ่านมาเคยเสพยาเสพติดจนคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายพ่อและแม่บังเกิดเกล้าของตัวเองปางตายเมื่อเดือนมกราคม 2557 ที่ผ่านมาและยังเคยอาละวาดทำลายทรัพย์สินภายในบ้าน รวมทั้งทุบตีทำลายศาลพระภูมิหน้าบ้านจนพังเสียหายยับเยินมาแล้ว จนเป็นที่รับรู้รับทราบและหวาดผวาของเพื่อนบ้านอย่างกว้างขวาง
ก่อนเกิดเหตุคนในบ้านออกไปทำธุระนอกบ้านปล่อยให้นางเดื่อง ผู้ตายอยู่บ้านกับนายช้าง หลานชาย สันนิษฐานว่าในขณะที่นางเดื่อง ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์นอนพักผ่อนอยู่บนฟูกที่นอนภายในบ้าน นายช้าง หลานชายทาสยานรกได้เข้ามาขอเงินจากนางเดื่อง ผู้เป็นยายเพื่อไปซื้อยาเสพติดแต่นางเดื่องไม่ยอมให้และยังดุด่าว่ากล่าวตักเตือนนายช้างอย่างรุนแรง ทำให้นายช้างบันดาลโทสะคว้ามีดปลายแหลมปาดคอนางเดื่องจนหลอดลมขาดเสียชีวิตคาที่ และล้วงเอาเงินสดในกระเป๋าเสื้อของนางเดื่อง ไปจำนวนหนึ่งก่อนหลบหนีไป จนกระทั้งนายแย้ม อู่ทองคำ สามีของนางเดื่อง กลับมาบ้านพบนางเดื่อง ถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตสยองคาบ้านดังกล่าว
โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมนายเอกพงศ์ หรือช้าง หลานทรพีเอาไว้ได้ ในขณะที่เมายาอย่างหนักให้การวกไปวนมาและอ้างไม่รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการ ตายของนางเดื่อง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอให้นายเอกพงศ์ หรือช้าง ส่างเมานำตัวมาสอบสวนปากคำอีกครั้ง โดยการสอบสวนปากคำล่าสุดนายเอกพงศ์ หรือช้าง ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้ก่อเหตุใช้มีดปลายแหลมปาดคอฆ่านาง เดื่อง ผู้เป็นยายจนเสียชีวิตจริง เพราะบันดาลโทสะที่เข้าไปขอเงินนางเดื่อง เพื่อนำไปซื้อยาเสพติดแต่นางเดื่องไม่ยอมให้และยังดุด่า ว่ากล่าวตักเตือนต่าง ๆ จนทำให้ตนบันดาลโทสะใช้มีดปลายแหลมที่พกติดตัวปาดคอฆ่านางเดื่อง จนเสียชีวิตคาที่นอน ก่อนจะล้วงเอาเงินในกระเป๋าไปจำนวนหนึ่งนำไปซื้อยาบ้าเสพจนเมามายและถูกจับ กุมตัวในเวลาต่อมาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.