การขาดแคลนบุคลากรด้านการแพทย์นับเป็นหนึ่งอุปสรรคในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนเพราะอาจกล่าวได้ว่าการมีสุขภาพที่ดีเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานของความเจริญทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคม ดังนั้นการมีบุคลากรคุณภาพที่เพียงพอกับความต้องการของคนในท้องถิ่น จึงมีความสำคัญและเป็นความจำเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนให้สถานพยาบาลในระดับตำบลมีเครื่องมือและบุคลากรที่เพียงพอ เพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพให้สามารถรับมือกับปัญหาสุขภาพของประชาชนในชุมชนท้องถิ่นได้ในเบื้องต้น
นายยุทธยา พิมเสน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เล่าถึงปัญหาดังกล่าวว่า “เราขาดแคลนในเรื่องบุคลากรเป็นอย่างมาก อย่างเช่นที่ตำบลกลาย เรามีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสองที่ ต้องให้บริการประชากรกว่าหมื่นคน พยาบาลประจำส่วนใหญ่ก็จะรับตำแหน่งผู้อำนวยการดูแลทั้งเรื่องการรักษาและงานบริหารควบคู่ไปด้วย ทำให้เวลาในการให้บริการประชาชนก็น้อยลง อีกทั้งเราขาดแคลนงบประมาณในการจ้างบุคลากรเพิ่ม ทำให้พี่น้องประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในการเดินทางไปยังโรงพยาบาล เพราะสถานพยาบาลในท้องถิ่นขาดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเพียงพอ ภาระก็จะตกที่โรงพยาบาลซึ่งต้องรองรับคนในชุมชนถึงสองแสนกว่าคน โดยมีบุคลากรจำกัดเช่นเดียวกัน ทำให้มีผลต่อประสิทธิภาพในการวินิจฉัยของแพทย์ หรือบางทีเดินทางไปแล้วก็ไม่ได้รับการรักษา”
ทั้งนี้ ด้วยตระหนักถึงปัญหา ประกอบกับความมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างชุมชนที่เข็มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับผู้ร่วมทุน จึงได้สนับสนุน โครงการสนับสนุนพยาบาลวิชาชีพและผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นระยะที่สองแล้ว ครอบคลุมระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557- พ.ศ. 2559 โดยสนับสนุนงบประมาณทั้งสิ้นกว่า 1.9 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนสำหรับการจัดจ้างบุคลากร 4 ตำแหน่ง ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 4 แห่ง ในอำเภอท่าศาลา ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดอนใคร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตลาดอาทิตย์ ในตำบลกลาย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสงวน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหัวคู ในตำบลสระแก้ว
นางหทัยรัตน์ อติชาติ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “โครงการในระยะแรกที่ดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554- พ.ศ. 2556 นั้น ได้รับความชื่นชมจากคนในชุมชนเป็นอย่างมากถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการที่ทั่วถึง เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการงานสาธารณสุขของโรงพยาบาล เพิ่มความสะดวกในการเดินทางของคนในชุมชน ลดระยะการรอคอยของผู้ใช้บริการ และช่วยลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล ซึ่งช่วยให้คนในชุมชนได้รับบริการทางด้านสาธารณสุขอย่างเพียงพอ เป็นความภาคภูมิใจที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือให้พี่น้องในชุมชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เชฟรอนต้องขอบคุณหน่วยงานและองค์กรท้องถิ่นที่ได้ทำงานร่วมกับเรา ทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถเข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง”
นางอารมณ์ สุขน้อย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหัวคู ได้กล่าวเสริมว่า “เมื่อเราได้บุคลากรเพิ่มขึ้นงานจากเดิมที่ทำได้แค่ 60% เราก็สามารถจัดการงานได้มากขึ้น คุณภาพในการให้บริการก็เพิ่มมากขึ้นเพราะแทนที่จะตั้งรับอย่างเดียว เราก็ได้ลงไปให้บริการสู่ชุมชนด้วย ให้ทุกคนได้เข้าถึง ในส่วนของคนที่ไม่สามารถเข้ามาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลได้ เราก็ไปถึงบ้าน คนในชุมชนก็ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง คุณภาพชีวิตของประชาชนจึงดีขึ้น ทำให้เราทำงานได้ครบทั้งสี่องค์ คือ ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ดูและรักษาโรค และฟื้นฟูสภาพ ซึ่งก็ค่อนข้างจะสมบูรณ์ แผนการต่อไป ก็คือจะผลักดันให้น้องผู้ช่วยพยาบาลให้กลายเป็นพยาบาลวิชาชีพเพื่อจะได้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างครบถ้วน”
นางมณฑา จ้วงเฮ้า ตัวแทนชุมชนอาสาสมัครสาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดอนใคร เป็นอีกหนึ่งเสียงสะท้อนของคนในชุมชน เล่าด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้มว่า “ประทับใจน้องพยาบาล เขาเก่งจริงๆ สามารถให้คำแนะนำได้ดี ขยันทำงานจนดึกดื่น การให้การบริการก็รวดเร็วมากขึ้น รู้สึกได้ถึงความจริงใจในการบริการ ชาวบ้านพอใจเป็นอย่างมาก รวมไปถึงอีกหลายๆ โครงการของเชฟรอนที่ได้ให้อะไรกับชุมชนเยอะมาก ทำให้ตัวเองกว้างขึ้น ได้เปิดหูเปิดตา ชุมชนก็มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น”
นอกจากนั้น โครงการฯ ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขให้แก่ประชาชนในตำบลกลายและตำบลสระแก้วแล้ว หากยังสร้างโอกาสในการจ้างงานในพื้นที่ท้องถิ่นอีกด้วย
นางสาวณัฐพัชร์ สีแก้วกีรดิต พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดอนใคร เล่าถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมโครงการฯ ว่า “เป็นโอกาสที่ดีมาก เพราะได้ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดของเราเอง ดูแล
ประชาชนในชุมชนแล้ว ยังสามารถดูแลคนในครอบครัวของเราได้อีกด้วย ก่อนหน้านี้ที่ต้องไปทำงานที่ต่างอำเภอ ก็มีความคิดที่อยากจะกลับมาอยู่ที่บ้าน เมื่อได้รับโอกาสนี้ก็รีบคว้าไว้เลย พอได้ทำงานกับชุมชนก็รู้สึกอบอุ่นมาก มีความสุขมากๆ ที่ได้มาทำงานตรงนี้ ถึงแม้ไม่ได้บรรจุอยู่ในระบบราชการแต่ก็คิดว่ามันคุ้มค่ากับความสุขที่ได้รับ นอกจากนี้ยังสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของพี่ๆ จากเชฟรอน และคนในพื้นที่ที่ร่วมกันผลักดัน บวกกับความต้องการของคนในชุมชนที่อยากจะให้เราอยู่ต่อ ก็รู้สึกดีใจมากที่มีโอกาสได้อยู่ต่อในโครงการระยะที่สอง”
โครงการสนับสนุนพยาบาลวิชาชีพและผู้ช่วยพยาบาลเป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักในการดำเนินนโยบายทางด้านสังคมของบริษัทฯ ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศ ซึ่งเป็นพันธกิจที่บริษัทฯ เชฟรอนยึดมั่นและถือปฏิบัติตลอดระยะเวลามากว่า 52 ปี ที่ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย