นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหายางพารา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรชาวสวนยางพารา หลังจากเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมหารือกับนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อร่วมกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ
โดยความคืบหน้าการดำเนินการดังกล่าว ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหายางพาราต่อคณะกรรมการยางพาราและคณะกรรมการนโยบายยางพาราธรรมชาติ ในระยะเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาวพารา ประกอบด้วย การจัดทำโครงการเร่งด่วนพัฒนาอาชีพเพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรชาวสวนยางเป็นรายครอบครัวเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่างราคายางพาราตกต่ำ ,การลดปริมาณการผลิตยางพาราโดยส่งเสริมให้มีการปรับเปลี่ยนต้นยางพาราที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปหรือ อายุ 15 ปีที่มีต้นโทรมให้น้ำยางน้อยไม่คุ้มค่าเพื่อไปปลูกพืชอื่นๆ รวมทั้งสนับสนุนให้มีการปลูกพืชอื่นแซมในสวนยางโดยอาจพิจารณาให้แรงจูงใจกับเกษตรกรมากกว่าปัจจุบันเพื่อเร่งการตัดสินใจลดปริมาณการผลิตยาง โดยทำควบคู่กับการให้แรงจูงใจกับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้ยางพาราในประเทศเป็นวัตถุดิบ หรือลดภาษีสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้ยางพาราในประเทศเป็นวัตถุดิบเพื่อเพิ่มอุปสงค์ไม้ยางพาราให้สอดรับกับอุปทานไม้ยางพาราที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ,การเชิญชวนและเปิดรับสมัครเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศที่สนใจเข้าร่วมโครงการฝากน้ำยางไว้กับต้นยางช่วงราคาตกต่ำหรือหยุดกรีดยาง(tapping holiday)เป็นเวลา 1-2 เดือน ซึ่งจะทำให้ยางพาราลดลงจากตลาดไปในทันทีจำนวน 5 แสนตันต่อเดือน เพื่อเป็นการกระตุ้น (short price) ราคายางพาราในตลาดเพราะการซื้อขายยางนั้นใช้รูปแบบเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆที่มีการซื้อขายแบบส่งมอบสินค้าและซื้อขายล่วงหน้ามีสัญญาส่งมอบสินค้าเมื่อครบอายุสัญญาซึ่งวิธีการหยุดกรีดยางนี้ หากสามารถควบคุมการหยุดกรีดได้จริงจะมีผลต่อการราคายางพาราให้สูงขึ้นมาก หากมีเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าวและสมัครเข้าร่วมโครงการมากกว่าร้อยละ 80 ของเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศ ก็จะได้ให้ กยท.ไปจัดทำโครงการส่งเสริมอาชีพชาวสวนยางระหว่างโครงการเพื่อให้มีรายได้มาชดเชยช่วงหยุดกรีดยางต่อไป ,การขอความร่วมมือบริษัทหรือภาคเอกชนที่มีธุรกิจแปรรูปหรือโรงงานอุตสาหกรรมผลิตล้อยางส่งขายในต่างประเทศและหรือภายในประเทศเพื่อขอให้เข้าร่วมรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนเปลี่ยนยางล้อรถยนต์ในช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อความปลอดภัยทางถนนในราคาถูกโดยให้ประชาชนได้สิทธิทำใบเสร็จซื้อยางล้อรถยนต์ไปลดภาษีเงินได้บุคคลหรือนิติบุคคลประจำปี ในขณะที่บริษัทเอกชนหรือโรงงานที่เข้าร่วมโครงการผลิตล้อรถยนต์ราคาถูกก็จะได้สิทธิพิเศษทางภาษีเช่นกัน โดยมีเงื่อนไขและหลักฐานว่าได้ซื้อยางพาราจากกลุ่มเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรที่มี กยท.รับรองโดยตรงด้วยรวมทั้งให้เชิญชวนบริษัทเอกชนทั้งของไทยและต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนผลิตหรือรับแปรรูปยางส่งไปขายต่างประเทศโดยมีสิทธิพิเศษทางการลงทุนตามที่หน่วยงานรัฐและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI)จะได้กำหนดต่อไป และการส่งเสริมและเร่งรัดการใช้ยางพาราในประเทศให้มากขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยส่งเสริมการใช้ยางพาราและผลิตภัณฑ์จากยางพาราในทุกรูปแบบโดยเริ่มจากหน่วยงานต่างๆของภาครัฐก่อนและขยายไปสู่ตลาดหรืออุตสาหกรรมต่างๆ
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังนำข้อเท็จจริงทางการตลาดทุกระดับมาเป็นข้อมูล เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางพาราในประเทศไทยให้ยั่งยืน และไม่มีผลกระทบต่อระบบการคลังของประเทศ โดยเบื้องต้นจะเร่งลดการพึ่งพาการส่งออกเพราะราคายางพาราในต่างประเทศอยู่ในภาวะเวลาลดลงทุกตลาดและราคายางพาราซื้อขายในประเทศก็ยังอิงกับราคาซื้อขายยางพาราล่วงหน้า (future trading) ในต่างประเทศด้วย ในขณะเดียวกันจะได้เพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศให้มากขึ้น ปรับสมดุลลดปริมาณ (supply) ยางพารา เพื่อสร้างเสถียรภาพราคายางพาราภายในประเทศ
อุไรวรรณ/ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
20 พฤศจิกายน 2561