สำหรับการร่วมหารือครั้งนี้ เพื่อร่วมกำหนดมาตรการเพิ่มเติม ตลอดจนการร่วมหาแนวทางการปฏิบัติงานเชิงรุกเพื่อกระตุ้นให้นายจ้าง และเจ้าของสถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวทำงานได้เข้ามาดำเนินการเร่งนำแรงงานต่างด้าวดังกล่าวมาขึ้นทะเบียนประวัติ หรือปรับปรุงทะเบียนประวัติ การตรวจลงตรา(VISA) และขออนุญาตทำงาน ณ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) จังหวัดนครศรีธรรมราชให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2561 และหลังจากนั้นนำแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา และกัมพูชา เข้าพิสูจน์สัญชาติ ณ ศูนย์ปฏิบัติการการบริหารจัดการเพื่อการทำงานของคนต่างด้าว จังหวัดสงขลา และในส่วนของแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาว ให้เข้าพิสูจน์สัญชาติ ณ ศูนย์ปฏิบัติการการบริหารจัดการเพื่อการทำงานของคนต่างด้าว กรุงเทพมหานคร ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2561ต่อไป ซึ่งในขั้นตอนการปฏิบัติงานพบว่าถึงขณะนี้ยังคงมีนายจ้าง/เจ้าของสถานประกอบการนำแรงงานต่างด้าวใรความดูแลมาขึ้นทะเบียนและพิสูจน์สัญชาติน้อยกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเจ้าของกิจการ/ผู้ประกอบการ จำนวน 300 กิจการ ที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว โดยมีการใช้แรงงานต่างด้าวที่ต้องรายงานตัวจำนวนทั้งสิ้น 14,588 คน ซึ่งจากตัวเลขจนถึงปัจจุบันมีนายจ้าง/เจ้าของสถานประกอบการที่มาขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวและพิสูจน์สัญชาติแล้ว จำนวน 4,000 คนเศษ ยังเหลือแรงงานต่างด้าวอีกจำนวน 10,566 คน จากตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีความกังวลว่าความล่าช้าของเจ้าของกิจการ/ผู้ประกอบการดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในระดับพื้นที่ต่อไป ดังนั้นจึงขอแจ้งเตือนให้ผู้ประกิบการรีบพาแรงงานต่าวด้าวดังกล่าว ไปรายงานตัวเพื่อขึ้นทะเบียนที่ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จจังหวัดนครศรีธรรมราช หมู่บ้านเมืองทอง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยเปิดให้บริการวันจ้นทร์ - วันเสาร์ และต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้
อุไรวรรณ/ข่าว/ภาพ
พาตีเม๊าะ/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
19 มีนาคม 2561