(25 ม.ค.61) นายเสกโสม เสริมศรี ผู้อำนวยการก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 15 พร้อมด้วยนายดิศชาต เจนนุวัตร หัวหน้าฝ่ายจัดหาที่ดิน 2 ส่วนจัดหาที่ดิน 4 สำนักกฎหมายและที่ดิน กรมชลประทาน ได้หารือร่วมกับนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงความก้าวหน้าในการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อการชลประทาน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันตรวจสอบทรัพย์สินของราษฎรที่ถูกเขตชลประทาน โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยอาศัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2532 ปรากฏว่า มีราษฎรผู้มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าขนย้าย(ที่ดิน) ชุดแรกจำนวน 61 แปลง เนื้อที่ 522 ไร่เศษ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงนามในประกาศคำสั่งแล้ว ทั้งนี้ หากผู้มีส่วนได้เสียบุคคลใดเห็นว่า ราษฎรตามรายชื่อท้ายประกาศดังกล่าว ไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าขนย้าย(ที่ดิน) ขอให้คัดค้านต่อนายอำเภอทุ่งใหญ่ ภายใน 30 วัน นับแต่วันประกาศนี้เป็นต้นไป หากพ้นกำหนดแล้ว ไม่มีผู้คัดค้านจะได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อการจ่ายเงินทดแทนต่อไป ซึ่งการจ่ายเงินจะโอนเข้าบัญชีธนาคารผู้มีสิทธิ์โดยตรง ส่วนที่เหลือกำลังเร่งดำเนินการตามขั้นตอน
สำหรับความเป็นมาของโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำคลองสังข์ และทรงเยี่ยมราษฎรในท้องที่อำเภอทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2523 ได้มีพระราชดำริให้กรมชลประทานควรพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างฝายทดน้ำและอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ในลุ่มน้ำคลองสังข์ ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาสายหนึ่งของแม่น้ำตาปี เพื่อจัดหาน้ำให้ราษฎรในเขตอำเภอทุ่งใหญ่ สามารถทำการเพาะปลูกได้ตลอดปี รวมทั้งการเลี้ยงสัตว์ด้วย
ปัจจุบันกรมชลประทาน ได้สำรวจและออกแบบโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หัวงานโครงการตั้งอยู่หมู่ที่ 2 และ หมู่ที่ 8 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ เป็นเขื่อนดิน ทำนบดินกว้าง 8 เมตร ความสูงเฉลี่ยประมาณ 22 เมตร ความยาว 1,557 เมตร สามารถเก็บกักน้ำได้ 36.575 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้งบประมาณก่อสร้าง 880 ล้านบาท ไม่รวมค่าจ่ายชดเชยที่ดิน ผลอาสินและสิ่งปลูกสร้าง ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง 4 ปี (พ.ศ.2561-2564 ) สำหรับที่ดินที่ใช้ในการก่อสร้าง จำนวน 6,847 ไร่ แยกเป็น 3 พื้นที่ 1.)พื้นที่ป่าไม้ตาม พ.ร.บ. 2484 จำนวน 631 ไร่ ปัจจุบันกรมป่าไม้อนุญาตให้กรมชลประทานใช้พื้นที่แล้ว และจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิจะได้รับเงินค่าขนย้าย(ที่ดิน) จำนวน 61 แปลง 2.)เป็นพื้นที่ ส.ป.ก.4-01 จำนวน 2,675 ไร่ ได้รังวัดแยกที่ดินเพื่อการชลประทานแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2553 มีแปลงกรรมสิทธิ์ จำนวน 425 แปลง ปัจจุบันเกษตรกรยินยอมสละสิทธิ์ในพื้นที่แล้ว จำนวน 225 แปลง หรือร้อยละ 53 และคณะอนุกรรมการฯได้ตรวจสอบทรัพย์สินของราษฎรที่ถูกเขตการก่อสร้างชลประทานเสร็จแล้ว จำนวน 260 แปลง หรือร้อยละ 61 และ 3.)พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 3,541 ไร่ อยู่ในการครอบครองของการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ปัจจุบันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เสนอเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(รมว.ทส.) ให้ความเห็นชอบ ซึ่ง รมว.ทส.เห็นชอบในหลักการแล้ว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 โดยกรมชลประทานจะเร่งรัดเสนอเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรีในขั้นตอนต่อไป และกรมชลประทานได้ตั้งงบประมาณไว้ในปี 2562 เพื่อจ่ายเงินทดแทนทรัพย์สินให้ กยท. เป็นเงิน 450 ล้านบาท
ส.ปชส.นครศรีธรรมราช