เมื่อค่ำวันที่ 14 ม.ค.61 นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดกิจกรรมถนนคนเดิน ตลาดวัฒนธรรม “หลาดชุมทางทุ่งสง” ณ ถนนชัยชุมพล ตำบลปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายทศพล จันทรประวัติ นายอำเภอทุ่งสง นายทรงชัย วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง หัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน เข้าร่วมพิธีเปิดอย่างพร้อมเพรียง
ซึ่งพิธีเปิดเริ่มจากการสมมุติว่าในบริเวณงานเป็นสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง โดยนายนายทศพล จันทรประวัติ นายอำเภอทุ่งสงได้สั่นระฆังเพื่อส่งสัญญาณคล้ายจะบอกว่าถึงเวลารถไฟจะเข้าชานชาลา โดยนายวินัย รักษ์พันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานในพิธีจะทำหน้าที่เหมือนเป็นนายสถานีทำการตีธงสีเขียวเพื่อเป็นสัญลักษณ์ทุกอย่างในสถานีพร้อม ก่อนจะมาตัดเชือกเปิดที่กั้นหรือที่เรียกกันว่า “เสานิ้งน๋อง” ทั้งนี้เพื่อบ่งบอกว่าอำเภอทุ่งสง เป็นที่รู้จักกันว่าในเส้นทางคมนาคมทางรถไฟในนาม “ เป็นชุมทางทุ่งสง” ซึ่งในแต่ละวันจะมีรถไฟหลายขบวนผ่านอย่างต่อเนื่อง หลังพิธีเปิดได้มีขบวนกลองยาว แห่นำประธานและคณะ เดินผ่านพ่อค้าแม่ค้าไปจนถึงเวทีกลาง ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของตลาด ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องจากพ่อค้า แม่ค้าและประชาชนที่แห่มาจับใช้ใช้สอบกันอย่างคึกคัก
ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบูรณาการวิจัยและความร่วมมือเพื่อพัฒนาเชิงพื้นที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย( สกว.) เปิดเผยว่า อำเภอทุ่งสงเปิดพื้นที่ที่มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรม โดยเป็นชุมทางการค้าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เชิงวัฒนธรรม จึงเหมาะสมที่จะจัดให้มีถนนคนเดิน ตลาดวัฒนธรรม “หลาดชุมทางทุ่งสง” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.00-21.00 น. และเป็นวันอาทิตย์แรกของการจัด “หลาดชุมทางทุ่งสง” ภายใต้สโลแกน “ร่วมสร้างคุณค่า มูลค่า ทางวัฒนธรรมชุมชน” โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว.ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยศิลปากรดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาพื้นที่ทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนผ่านกลไกความร่วมมือของภาคประชาสังคม ศิลปินหรือชุมชนและสถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการโดยกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างภาคประชาสังคม เครือข่ายศิลปินหรือชุมชน และสถาบันอุดมศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อพัฒนาพื้นที่ให้เกิดการเปิดหรือสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรมสำหรับผู้ประกอบการทางวัฒนธรรมและวิสาหกิจทางวัฒนธรรมในชุมชนให้มีสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆอาทิตลาดการซื้อขายสินค้าทางวัฒนธรรม การจัดพบปะสังสรรค์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ พิพิธภัณฑ์การแสดงผลงาน โดยมีเป้าหมายที่จะดำเนินการใน 6 พื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากลไกความร่วมมือทำให้เกิดแผนที่ทางวัฒนธรรมและแผนความร่วมมือเพื่อวิจัยและพัฒนาพื้นที่ทางวัฒนธรรม ส่งผลไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน การวิจัยและพัฒนาให้เกิดการสร้างผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนทางวัฒนธรรมในพื้นที่ ส่งเสริมการจัดการองค์ความรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่เพื่อวิเคราะห์รายได้เสริมครัวเรือนจากทุนวัฒนธรรม การกระจายรายได้และการจ้างงานของชุมชนที่เกี่ยวข้องและพื้นที่ทางวัฒนธรรมชุมทางการค้าผลิตภัณฑ์เชิงวัฒนธรรม อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่ดำเนินการวิจัยในครั้งนี้ ซึ่งทางเทศบาลเมืองทุ่งสงได้มีการวางผังพื้นที่ของเมือง กำหนดย่านวัฒนธรรมของเมืองและจัดทำโครงการถนนคนเดิน “หลาดชุมทางทุ่งสง” ขึ้นเพื่อให้เป็นการดำเนินโครงการอย่างมีส่วนร่วม จึงได้ร่วมกับคณะกรรมการประชาคมวัฒนธรรมอำเภอทุ่งสง กำหนดจัดกิจกรรมนำร่องในพื้นที่ย่านวัฒนธรรม ผลักดันให้เกิดตลาดวัฒนธรรมภาคใต้วิถีใต้และภูมิปัญญาใต้ชื่อว่า “ตลาดชุมทางทุ่งสง” บนถนนชัยชุมพล ซึ่งมีความยาวประมาณ 160 เมตร พื้นที่รวม 2,275 ตารางเมตร มีชาวทุ่งสงทุกคนเป็นเจ้าของตลาดจึง เป็นตลาดของคนทุ่งสงอย่างแท้จริง
“การดำเนินการเปิดพื้นที่ทางวัฒนธรรมชุมทางการค้าผลิตภัณฑ์เชิงวัฒนธรรม อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช “ตลาดชุมทางทุ่งสง” ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคีเครือข่ายของเมืองทุ่งสง ได้แก่ อำเภอทุ่งสง สถานีตำรวจภูธรอำเภอทุ่งสง วัฒนธรรมอำเภอ พัฒนาชุมชน การรถไฟแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยวิทยาเขตนครศรีธรรมราช(ไสใหญ่) วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคใต้ โรงเรียนทุ่งสง โรงเรียนสตรีทุ่งสง โรงเรียนตันติวัตร โรงเรียนในสังกัดของเทศบาลเมืองทุ่งสงจำนวน 6 โรงเรียน บริษัทผาทอง(ทุ่งสง)จำกัด บริษัทยิบอินซอย ชมรมช่างภาพอาสาเมืองทุ่งสง สมาคมจงฮั้วทุ่งสง ร้านทองไทยทองดี ชมรมสมาคม มูลนิธิ และพ่อค้า ประชาชนในอำเภอทุ่งสง รวมถึงหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้คาดว่าชุมทางทุ่งสงจะเป็นตลาดการซื้อขายสินค้าทางวัฒนธรรมและที่พบปะสังสรรค์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ สามารถพัฒนาเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นส่งผลไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างยั่งยืน” ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา กล่าว
ทางด้านนายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ความสำคัญในการพัฒนาเชิงพื้นที่ในมิติต่างๆ ด้านศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สร้างสรรค์ เพื่อเปิดพื้นที่ทางวัฒนธรรม พัฒนาและส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการทางวัฒนธรรมและวิสาหกิจเชิงวัฒนธรรม โดยบูรณาการอย่างมีส่วนร่วมและจากความร่วมมือกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มประชาคมวัฒนธรรมในท้องถิ่นและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และเห็นด้วยกับเทศบาลเมืองทุ่งสงที่ได้กำหนดผังย่านวัฒนธรรมของเมืองทุ่งสงเพื่อขับเคลื่อนสร้างสรรค์และจัดการให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ทางศิลปวัฒนธรรม สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้เด็กเยาวชนและประชาชนในท้องถิ่นได้มีโอกาสแสดงผลงานงานผลผลิตทางวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์สร้างผู้ประกอบการทางวัฒนธรรมที่เป็นคนรุ่นใหม่ และปรับเปลี่ยนการค้าขายของคนในท้องถิ่นให้หันมาสนใจการค้าขายผลิตภัณฑ์เชิงวัฒนธรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นับเป็นการปลุกเมืองให้มีชีวิตชีวาทำให้คนในเมืองนี้มีความสุข เกิดการสร้างงานและสร้างรายได้ขึ้นในชุมชน และยังเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้ยั่งยืนอีกต่อไปด้วย.