(1 พ.ย.60) นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง “ฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้” มาตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2560
และล่าสุดได้ออกประกาศฉบับที่ 7 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ว่าพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 420 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองโฮจิมินต์ ประเทศเวียดนาม หรือละติจูด 7.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวนไปทางอ่าวไทย โดยมีผลกระทบกับภาคใต้ช่วงวันที่ 1–3 พ.ย. 60 ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมกระโชกแรง พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบตามภาคต่างๆ มีดังนี้ วันที่ 1 พ.ย. 2560 บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส วันที่ 2-3 พ.ย. 2560 บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่ง จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ นั้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการสั่งการไปยังส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ให้เตรียมความพร้อมรับเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งได้มีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราช ณ ห้องศูนย์ปฏิบัติการ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช หากเกิดเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มขึ้นก็จะสามารถเรียกประชุม สั่งการ ช่วยเหลือได้ทันที ทั้งนี้ สามารถแจ้งเหตุได้ที่สายด่วน 1784 หรือ โทร. 0 7535 8440 และ 0 7535 8442
ด้านนายชูศักดิ์ สุทธิ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครศรีธรรมราช กล่าวว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครศรีธรรมราช สำนักงานชลประทานที่ 15 ร่วมกับเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้เตรียมความพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 20 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 12 เครื่อง ในเขตตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หากน้ำท่วมขังในพื้นที่
ขณะที่นายพุทธ กฤชคงพันธุ์ นายอำเภอฉวาง ได้นั่งเรือออกสำรวจพื้นที่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำตาปีและสำรวจสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเตรียมการรองรับสถานการณ์ฝนตกหนักและอาจทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่
ส.ปชส.นครศรีธรรมราช