
(24 สิงหาคม 2560) ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายขจรเกียรติ รักพาณิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานประชุมคณะกรรมการ/คณะทำงานประสานการขับเคลื่อนและขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีคณะกรรมการ/คณะทำงาน และผู้เกี่ยวข้อง ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าประชุมพร้อมเพรียงกัน
การประชุมครั้งนี้มีวาระสำคัญเพื่อติดตามความก้าวหน้าการสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในคราวเสด็จทรงติดตามงานในโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 17-18 กรกฎาคม 2557 เกี่ยวกับป่าพรุควนเคร็ง ให้ดำเนินการขุดแพรกเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไฟป่า และป้องกันการบุกรุกพื้นที่ โดยในปีงบประมาณ 2559 สำนักงาน กปร.สนับสนุนงบประมาณในการขุดแพรกเป็นแนวเขตและป้องกันไฟป่าในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ ท้องที่อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ระยะทาง 14.14 กิโลเมตร ซึ่งดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และในปีงบประมาณ 2560 ได้รับงบประมาณเพิ่มเติมในการขุดแพรกเพื่อป้องกันแนวเขต และป้องกันไฟป่าในเขตห้ามล่าสัตว์บ่อล้อ อีกระยะทาง 23.50 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ที่ประชุมติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงพิพิธพันธ์โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อปรับปรุงการนำเสนองานในการจัดแสดงนิทรรศการผ่านสื่อมัลติมีเดียที่ทันสมัย ให้มีเนื้อหาการนำเสนอการจัดนิทรรศการที่กระชับ น่าสนใจ

นอกจากนี้ยังได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโครงการสืบเนื่องมาจากชาวบ้านอำเภอทุ่งใหญ่ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือเร่งรัดพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม ตั้งแต่ปี 2519 ต่อมาในปี 2523 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำคลองสังข์ และเยี่ยมราษฎรในพื้นที่อำเภอทุ่งใหญ่ ได้มีพระราชดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเร่งด่วนเพื่อจัดหาน้ำให้ราษฎรในเขตอำเภอทุ่งใหญ่ให้สามารถทำการเพาะปลูกได้ตลอดปี และกรมชลประทานได้มีการดำเนินการสนองพระราชดำริโดยการก่อสร้างฝายทดน้ำเสร็จเรียบร้อย แต่ยังไม่สามารถก่อสร้างอ่างเก็บน้ำดังกล่าวได้ เนื่องจากยังมีปัญหาในการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ของกรมป่าไม้ การยางแห่งประเทศไทย และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม บนพื้นที่ 6,820 ไร่ ของหมู่ที่ 2 และ หมู่ที่ 8 ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ โดยอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 3,541 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์เพื่อการปลูกสร้างสวนยางพารา ของการยางแห่งประเทศไทย อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน (สปก.4-01) จำนวน 2,675 ไร่ จำนวน 435 แปลง เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินได้รับผลกระทบทั้งแปลง 162 แปลง เนื้อที่ 965 ไร่ เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินได้รับผลกระทบบางส่วน 173 แปลง เนื้อที่ 957 ไร่ โดยสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 15 ดำเนินการทำเรื่องขออนุญาตใช้พื้นที่ทำประโยชน์เขตปฏิรูปที่ดินโครงการป่าคลองกรุงหยัน แล้วเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2560 ปัจจุบันอยู่ระหว่างรับคำขอสละสิทธิ์ที่ดินของบุคคลที่ได้รับสิทธิ์โดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ซึ่งสละสิทธิ์แล้ว 222 แปลง จำนวน 189 ราย ยังไม่ได้รับสิทธิ์ สปก. 13 แปลง และอยู่ในพื้นที่ของกรมป่าไม้ พรบ.2484 จำนวน 204 ไร่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสภาพป่า โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่สร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะการจ่ายผลอาสิน และค่าชดเชยที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงาน และปัญหาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง และให้หน่วยงานต่าง ๆ รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ไปยังสำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อจังหวัดจะได้รวบรวมจัดส่งส่วนกลางต่อไป
พรรณี กลสามัญ/ภาพ-ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
24 สิงหาคม 2560