เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 ส.ค.2560 ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน พร้อมคณะผู้บริหารกรมท่าอากาศยาน เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบและเปิดโครงการก่อสร้างคันทางและระบบป้องกันน้ำท่วมท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช โดยมีนายสุขสวัสดิ์ สุขวรรณโณ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานให้การต้อนรับ ทั้งนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ทางภาคใต้เมื่อเดือนมกราคม 2560 ส่งผลกระทบให้น้ำเข้าท่วมภายในบริเวณท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช จนต้องประกาศปิดทำการบินชั่วคราวนั้น
นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชเป็นท่าอากาศยานที่มีความเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมมากที่สุดในประเทศ ที่ผ่านมาถูกน้ำท่วมมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2559-2560 ที่ผ่านมา โดย เมื่อถูกน้ำท่วมทางท่าอากาศยานจำเป็นต้องปิดท่าอากาศยานชั่วคราว สร้างความเสียหายทั้งในส่วนของทรัพย์สินของท่าอากาศยานและภาพรวมในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทางกรมท่าอากาศยานได้จัดทำโครงการก่อสร้างคันทางและระบบป้องกันน้ำท่วมท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งการดำเนินการเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้กระทรวงคมนาคม หามาตรการป้องกันน้ำท่วมในปี 2560 ก่อนเข้าฤดูกาล โดยเฉพาะบริเวณที่เคยเกิดน้ำท่วมเมื่อปี 2559
“ก่อนการแถลงข่าวทางอธิบดีกรมท่าอากาศยานได้ประชุมร่วมกับผู้รับจ้าง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือถึงแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาในเชิงรุก โดยได้สั่งการให้ผู้รับจ้างจัดทำแผนการดำเนินงานอย่างละเอียด และเตรียมการป้องกันระหว่างการดำเนินการก่อสร้างโครงการ โดยให้มีมาตรการป้องกันน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้างด้วยการปิดทางน้ำเข้าสนามบินและในที่ลุ่มต่ำเดิมให้ผู้รับจ้างติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อผลักดันมวลน้ำออกจากสนามบิน นอกจากนี้ยังเร่งรัดผู้รับจ้างเข้าดำเนินการก่อสร้างโดยทันที และให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อนฤดูน้ำหลากในปีปลายปี 2560-ต้นปี 2561
สำหรับ"โครงการก่อสร้างคันทางและระบบป้องกันน้ำท่วมท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช" ใช้งบประมาณการก่อสร้าง จำนวน 353,838,000.- บาท ระยะเวลาการดำเนินการ 16 เดือน โดยมีบริษัท สินเจริญสนม จำกัดเป็นผู้รับจ้าง และบริษัท อินทิเกรเทด เอนจิเนียริ่ง คอนซัลแทนท์ จำกัด เป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งการออกแบบระบบระบายน้ำและป้องกันน้ำท่วม มีรายละเอียดดังนี้ 1. ระดับป้องกัน คันป้องกันน้ำท่วมจากระดับน้ำภายนอกพื้นที่ ใช้ระดับป้องกันที่ระดับน้ำท่วมในรอบการเกิด 100 ปี หรือประมาณระดับ +4.00 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2. ระยะเผื่อล้น (Freeboard) ระยะเผื่อล้นใช้เท่ากับ 0.50 เมตร ซึ่งมากกว่าเกณฑ์ทั่วไปที่ใช้ประมาณ 0.30 เมตร 3. การระบายน้ำฝนภายในพื้นที่ กำหนดให้ระบายน้ำจากฝนตกภายในพื้นที่ในรอบการเกิด 25 ปี โดยควบคุมระดับน้ำและพร่องน้ำในช่วงระดับ +2.50 เมตร ถึง +3.00 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง 4. คันป้องกันน้ำท่วมเป็นคันดินเป็นรูปแบบของคันกั้นน้ำที่เหมาะสมมีราคาประหยัด 5.ประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำ ประกอบด้วยสถานีสูบน้ำ 2 สถานี โดยให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำได้ 4 เครื่อง โดยสามารถสูบน้ำได้ 9 ลบม./วินาที โดยภายหลังจากโครงการก่อสร้างดังกล่าวแล้วเสร็จ จะส่งผลให้ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชสามารถรองรับน้ำท่วมขังในปริมาณปี 2554 และปี 2559 ได้
นายดรุณ แสงฉาย กล่าวอีกว่า การดำเนินการจะเร่งให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2560 ซึ่งหลังจากโครงการนี้แล้วเสร็จสมบูรณ์จะสามารถป้องกันน้ำท่วมท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจะรองรับการเป้าหมายการขยายตัวของท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชในระหว่างปี 2561-2565 ซึ่งกรมท่าอากาศยานได้ขออนุมัติงบประมาณจากรัฐบาลกว่า 5,300 ล้านเพื่อปรับปรุงรันเวย์จากระยะ 2,100 เมตร เป็น 2,500 เมตร พร้อมสร้างอาคารรองรับผู้โดยสารพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก 1 หลังมูลค่ากว่า 1.800 ล้านบาท
ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์/ นครศรีธรรมราช
13 ส.ค.2560