(6 ก.ค.60) ที่ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช มอบหมายให้นายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการแถลงข่าวสรุปผลการหารือการแก้ไขปัญหาจากกรณีตัวแทนประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมเรื่องการบูรณะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยมีนายสัมพันธ์ ทองสมัคร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ,นายพรชัย วัฒนวิกย์กิจ หรืออาจารย์เปี๊ยก หนึ่งในทีมผู้ก่อสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ,พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ,ผู้แทนเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ,ผู้แทนฝ่ายทหาร ,ผู้แทนภาคประชาชน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมแถลงข่าว
เบื้องต้นนายสัมพันธ์ ทองสมัคร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การดำเนินการบูรณะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชในครั้งนี้ ยังมีการประกอบพิธีกรรมไม่ถูกต้อง ครบถ้วน และเชื่อว่าความไม่เข้าใจ ความกังวลใจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะจบลงด้วยดีเมื่อมีการประกอบพิธีบวงสรวงครบถ้วนตามประเพณีโบราณ ซึ่งจะมอบหมายให้นายฉันทิพย์ ราชเดช บุตรชายคนโตของขุนพันธ์รักษ์ราชเดช เป็นคนดำเนินการด้านพิธีกรรมทั้งหมดส่วนจะมีการประกอบพิธีกรรมในวันไหนนั้น ยังตอบไม่ได้เนื่องจากจะต้องดูฤกษ์ยามจากดวงของเจ้าเมือง คือนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งในการประกอบพิธีดังกล่าวจะมีการประชาสัมพันธ์และเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้สนใจทั่วไปได้เข้าร่วมอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตามในส่วนของประเด็นการต่อเติมและปรับเปลี่ยนรูปแบบศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยการเพิ่มเสา จำนวน 12 ต้น ซึ่งเป็น “เสามหาราช” ที่จะมีการแกะสลักรูป 12 นักษัตรที่บริเวณเสาทั้ง 12 ต้น รวมทั้งการดำเนินการอื่นๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นนั้น เป็นการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อให้การก่อสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชมีความสมบูรณ์ตามรูปแบบที่กำหนดไว้แท้จริง อันเนื่องจากการดำเนินการในตอนต้นมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ซึ่งแม้ว่าศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชจะมีความสวยงาม น่าเคารพสักการะ แต่เมื่อมีผู้มีจิตศรัทธาประสงค์จะบริจาคเงินสนับสนุนเพื่อให้การก่อสร้างมีความสมบูรณ์ตามรูปแบบแท้จริง จึงเป็นการสานต่อศรัทธาของคณะผู้ก่อสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมๆ กับการบูรณะซ่อมแซมในส่วนที่ได้เกิดความชำรุดเสียหายตามระยะเวลา ทั้งนี้เพื่อให้ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชคงเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจที่สำคัญของพี่น้องชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชสืบไป
อุไรวรรณ/ภาพ/ข่าว
พรรณี/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
6 กรกฎาคม 2560