(6 มิ.ย.60) ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายประทีป กลีบแก้ว ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 20 คน เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเสนอแนะแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 โดยมีนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับหนังสือดังกล่าว พร้อมดำเนินการรีบเสนอเรื่องไปยังรัฐบาลพิจารณา ต่อไป เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลากระชัง
นายประทีป กลีบแก้ว ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังกับสำนักงานประมง จ.นครศรีธรรมราช มีจำนวน 415 ราย ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบโดยตรงต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหากเกษตรกร ไม่ไปแจ้งกรมเจ้าท่าภายในวันที่ 22 มิถุนายน 2560 อาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับในอัตราไม่น้อยกว่าตารางเมตรละ 1,000 บาท แต่ไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งต้องระวางโทษปรับรายวันในอัตราวันละไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท การกำหนดอัตราโทษที่สูงดังกล่าว ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเป็นอยู่และกระทบต่อจิตใจของเกษตรกรเป็นอย่างมาก ซึ่งสภาเกษตรกร จ.นครศรีฯ ตระหนักถึงผลกระทบเสียหายดังกล่าว ดังนั้น จึงมีข้อเสนอแนะแนวทางในการช่วยเหลือฯ ดังต่อไปนี้
1.เกษตรกรส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจในการบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว เนื่องจากการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง ดังนั้น จึงขอให้นิรโทษกรรมเกษตรกรทั้งหมดที่ไม่ได้ไปขอขึ้นทะเบียนกับกรมเจ้าท่า หรือขึ้นทะเบียนแล้วแต่ดำเนินการผิดไปจากที่ได้รับอนุญาตและให้เกษตรกรดังกล่าวไปขึ้นทะเบียนครั้งใหม่
2.ขอให้ขยายเวลาการขึ้นทะเบียนกับกรมเจ้าท่าออกไปอีกประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี และปรับเงื่อนไขจำแนกแยกแยะระหว่างนายทุน ผู้ประกอบการที่ปลูกสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำ กับเกษตรกรที่อยู่อาศัยเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังให้มีความชัดเจนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อย
3.การกำหนดอัตราโทษที่สูงเกินไป เกษตรกรไม่สามารถชำระค่าปรับได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และกระทบต่อจิตใจของเกษตรกรเป็นอย่างมาก จึงขอให้ปรับปรุงการกำหนดอัตราโทษให้มีความเหมาะสมตามลักษณะความผิด
4.กรณีผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างหรือสร้างอาคารล่วงล้ำลำน้ำสาธารณะ รูปแบบผิดหลักเกณฑ์ของกรมเจ้าท่า ให้ภาครัฐสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในการปรับเปลี่ยนอาชีพ
5.กรณีมีเกษตรกรรายใดไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมเจ้าท่าหรือสร้างกระชังปลาในพื้นที่ลำน้ำสาธารณะ เป็นเหตุให้ต้องรื้อถอนให้ภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนเพื่อปรับเปลี่ยนอาชีพ เช่น สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อการปรับเปลี่ยนอาชีพอื่นและจัดหาที่อยู่อาศัยตามความเหมาะสม
ส.ปชส.นครศรีธรรมราช