(1 มิ.ย.60) ที่ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานคณะทำงานขับเคลื่อนวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก(ด้านสภาพแวดล้อม) โดยมีคณะทำงานและผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุคณะทำงาน 2 ชุด คือ คณะอนุทำงานในเขตแกนกลาง (Core Zone) คือพื้นที่ทั้งหมดภายในวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร ทั้งในเขตพุทธาวาส และเขตสังฆาวาส และคณะอนุทำงานในเขตกันชน (Buffer Zone) และ การจัดระบบจราจรเป็นแบบวันเวย์บริเวณวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เพื่อเตรียมการรองรับการเสนอวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก
พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะทำงานขับเคลื่อนวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก(ด้านสภาพแวดล้อม)ซึ่งนำพาจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่สี่แห่งมรดกโลกของประเทศไทย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในเขตพื้นที่คอร์โซน คือ ภายในเขตรั้วของวัดพระมหาธาตุทั้งหมด ซึ่งต้องมีความสะอาด สว่าง และสงบ ซึ่งต้องมีความพร้อมที่จะเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมถือว่ามีความยิ่งใหญ่มากและพื้นที่กันชนคือพื้นที่อยู่โดยรอบวัดพระมหาธาตุฯทั้งสี่ทิศ โดยได้มีการตั้งคณะอนุทำงาน2 ชุด คือ คณะอนุทำงานในคอร์โซน เพื่อจัดระบบระเบียบต่าง ๆ ที่อยู่ภายในวัดทั้งหมด และคณะอนุทำงานในเขตกันชน เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ทั้งในเรื่องของถนน ไฟฟ้า ทางเท้า ทางลาดสำหรับคนพิการ เป็นต้น เพื่อให้เห็นขอบเขตของพื้นที่มรดกโลกที่ชัดเจน ซึ่งภายในสัปดาห์หน้าหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามแต่งตั้งคระอนุทำงานแล้ว ก็จะได้มีการประชุมเพื่อลงรายละเอียดในการทำงานต่อไป โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน วัด และผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านร่วมเป็นคณะอนุทำงานดังกล่าว
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า เพื่อลดผลกระทบกระเทือนจากการจราจรต่อความมั่นคงแข็งแรงของวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร โดยเฉพาะพระบรมธาตุเจดีย์ จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบการจราจรเพื่อรองรับความเป็นมรดกโลก โดยการจัดวันเวย์ถนนบริเวณวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร โดยแยกวันเวย์เป็นหกวง เช่น เริ่มจากถนนราชดำเนินตั้งแต่สี่แยกพานยมถึงสี่แยกประตูไชยสิทธิ์โดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สามารถผ่านหน้าวัดพระมหาธาตุฯได้ตามปกติ แต่ผ่านได้ทางเดียว ยกเว้นรถบรรทุก รถบัส ยังคงห้ามเช่นเดิม คือ หากไปจากท่าวังเมื่อถึงแยกพานยมสามารถเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาหรือตรงไปผ่านหน้าวัดพระมหาธาตุฯไปแยกประตูไชยฯได้ตามปกติ สามารถนำรถเข้าไปจอดที่ศาลา 100 ปี ได้ เช่นเดิม แต่หากมาจากสี่แยกหัวถนนเมื่อถึงสี่แยกประตูไชยสิทธิ์สามารถเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาตามปกติ แต่จะตรงผ่านหน้าวัดพระมหาธาตุฯ ไม่ได้ ซึ่งทางตำรวจจะได้มีการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์รวมทั้งป้ายจราจรให้ทราบต่อไป โดยจะมีการเริ่มจัดวันเวย์ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2560 เป็นต้นไป ซึ่งมีการบังคับใช้ตลอด 24 ชั่วโมง เบื้องต้นจะทดลอง 30 วันก่อน จากนั้นจะนำผลมาพัฒนาปรับปรุงแก้ไข แล้วออกเป็นคำสั่งเจ้าพนักงานจราจรต่อไป ดังนั้น จึงของความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่ต้องช่วยกันในการขับเคลื่อนไปสู่ความเป็นมรดกโลกต่อไป
ส.ปชส.นครศรีธรรมราช