ReadyPlanet.com


ชิงสุข ก่อนห่าง


https://mail-attachment.googleusercontent.com/attachment/?ui=2&ik=569f87d234&view=att&th=13799590f81d7812&attid=0.1&disp=inline&safe=1&zw&saduie=AG9B_P9Q3-UfIKWWTAPW78qkH7Hw&sadet=1338323894616&sads=MRnvMbFPt_khNVeDC9PPxjm74uU เขียนเรื่องนี้ในวันที่คนไทยหัวใจร่วงหล่น หลังจากเห็นข่าวเฮลิคอปเตอร์ถึง 3 ลำ ตกที่ป่า แก่งกระจาน ทั้งพี่ ๆ ทหารและพี่นักข่าวที่แม้ลมหายใจสุดท้ายของชีวิต ยังอุทิศตนเพื่อการช่วยเหลือ คนอื่น ทุกคนมีครอบครัว มีคนที่รออยู่ที่บ้าน คุณแม่ของพี่ทหารคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า “เกียรติยศใด ๆ ที่ลูกจะได้รับหลังเสียชีวิต ไม่มีความสำคัญอะไรกับแม่ เท่าที่แม่เห็นลูกเดินกลับเข้าบ้าน” และในที่สุด แม่ก็ไม่มีโอกาสได้เห็นภาพนั้นอีก ทหารบางคนเพิ่งแต่งงาน ใช้ชีวิตคู่ได้เพียงวันเดียวก็ต้องไปประจำการ ใครจะ รู้ว่า เขาจะไม่มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวอีก ชีวิตคนเราสั้นค่ะ สั้นมากแค่หายใจเข้าแล้วหายใจออกไม่ได้ มันก็จบ แล้ว ต่อจากนั้นไม่มีใครรู้ แต่ตอนที่เราอยู่ ต้องรู้ว่าควรทำอะไร ไม่นานนี้ มีโอกาสได้พูดคุยกับพี่พยาบาลคนหนึ่ง เคยอ่านเรื่องของพี่เขา จากหนังสือพิมพ์ แล้ววันหนึ่งได้เจอตัวจริง ในใจแอบกรี๊ดอย่างกับได้เจอดารา พี่แอ้ พรวรินทร์ นุตราวงศ์ พยาบาลวิชาชีพ 7 (วช.) ฝ่ายการพยาบาล วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล พี่แอ้เป็นพยาบาลที่ดูแลคนไข้ด้วยยารักษาโรคและยารักษาใจ หลังจาก ได้ผ่านฝันร้ายครั้งใหญ่ในชีวิต สามีป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หมอบอกว่า ทางรักษามีอยู่ไม่กี่ทาง หนึ่งในนั้นน่าจะเป็นการคีโม ต้องให้ยาทั้งหมด 8 เข็ม ค่อย ๆ ต่อสู้กันไป ถ้าโชคดี มะเร็งร้ายอาจจะตายด้วยฤทธิ์ยา พี่แอ้และสามี ตัดสินใจในทันที ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ผลข้างเคียงของคีโมมันทรมานแค่ไหน จากเข็มแรก สู่เข็มที่สอง และเข็มที่สาม วันหนึ่ง พี่แอ้เปิดประตูเข้าไปในห้องสามี แปลกใจที่เตียงว่างเปล่า มอง ออกไปที่ระเบียง เห็นสามีกำลังปีนขึ้นไป เพื่อตัดสินใจฆ่าตัวตาย พี่แอ้วิ่ง เข้าไปหา น้ำตาไหล และตัดสินใจในวินาทีนั้นว่ า ‘หยุด’ พอแล้ว เราจะ ไม่คีโมกันอีกแล้ว กลับบ้านกัน “พี่ไม่ยอมให้สามีตายอย่างโดดเดี่ยวแบบนี้ สู้ให้เขากลับไปตายในอ้อม กอดคนที่เขารักและรักเขาที่สุดดีกว่า หมอบอกว่า ถ้าหยุดไว้แค่นี้ อย่างดี สามีพี่แอ้คงอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน ไม่เป็นไร แค่ไหนแค่นั้น พอกลับบ้าน สิ่งที่ พี่แอ้ทำทุกวันคือ กอด กอดกันวันละสิบ ๆ ครั้ง เดินสวนกันหน้าห้องน้ำก็กอด และบอกกันว่า ‘เรารักกันมากแค่ไหน’ “พี่อย่าทิ้งแอ้ไปนะ เราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ” นอกจากภรรยา ที่ดูแลสามีด้วยหัวใจ ลูกทุกคน คือพลังที่สำคัญที่สุดในการฉุดรั้งชีวิตพ่อ วันที่ลูกทำตามความฝัน สอบชิงทุนได้ไปเรียนต่างประเทศในโครงการ แลกเปลี่ยนฯ 11 เดือน เป็นช่วงเวลาที่พี่แอ้ทรมานหัวใจอีกครั้ง รู้ว่าลูก เพียรพยายามสอบมาถึง 3 ปี แม่ยินดีให้ลูกไปถึงฝันเสมอ แต่สามีบอกกับ พี่แอ้ว่า “ฉันเกลียดเธอ เธอก็รู้ว่าฉันกำลังจะตาย เธอให้ลูกไปทำไม ส่งลูกขึ้น เครื่องไป เราก็ไม่ต้องเห็นกันอีกแล้วใช่ไหม” พี่แอ้หนีไปร้องไห้ แล้วกลับมา ด้วยยิ้มใส ๆ เหมือนเดิม “พี่ ให้ลูกไปเถอะนะ ลูกตั้งใจมากแค่ไหนพี่ก็รู้ 11 เดือน พี่ก็อยู่รอลูกสิ รอให้ไหว รอเห็นเขาสำเร็จกลับมาไง” แล้วก็กอดกันสองคนร้องไห้ ลูกเองก็ กังวลใจไม่แพ้กัน วันหนึ่งเดินมาบอกกับแม่ว่า “ไม่ไปแล้วดีกว่าแม่ อยู่กับพ่อดีกว่า ช่างมันเถอะ ไม่ไปเรียนก็เป็นไร” พี่แอ้กอดลูกแน่น “ไปเถอะลูก แม่สัญญา วันที่ลูกกลับมา ลูกต้องเห็นพ่ออยู่ตรงนี้ แม่ สัญญา” จะด้วยความรัก ด้วยหัวใจ ปาฏิหาริย์ หรือด้วยกอด วันนี้สามีพี่แอ้อยู่รอดปลอดภัยมาได้ 8 ปีแล้วค่ะ ถือเป็น ของขวัญแห่งชีวิต ทำให้พี่แอ้คิดเยียวยาคนป่วยด้วยกอด เช่นเดียวกัน เจอกันทุกเช้าให้กอด บอกรักกันทุกวัน คุณตา คุณยาย ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่พี่แอ้ดูแล เจอหน้าทีไรต้องกอดกัน มีคุณป้าคนหนึ่ง ป่วยเป็นมะเร็ง นอนรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาล วันหนึ่งคุณป้าบอกพี่แอ้ว่า “หนูอย่ าให้ป้าตายก่ อนมกราคมนะ” พี่ แอ้ยิ้มแล้ว บอกว่ า “ป้าจ๋า ไม่ มีใครกำหนดวันตายของเราได้หรอก หนูเองกลับบ้านวันนี้ อาจถูกรถชนแล้วตายใครจะไปรู้ ทำไมล่ะคะ มกราคมมีอะไร” “ลูกป้ารับปริญญาเดือนนั้น ป้าอยากเห็นเขาสำเร็จ นะหนูนะ อย่าให้ป้าตายก่อน” พอรู้แบบนี้สิ่งที่พี่แอ้รีบทำ คือ ติดต่อกับลูกสาวของป้า ให้ขอใบปริญญาล่วงหน้าจาก มหาวิทยาลัย ปรากฏว่า ‘ทำไม่ได้’ ต้องรับพร้อมกันในวันงาน พี่แอ้ ตัดสินใจโทร.ไปที่ มหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เล่ าถึงความ จำเป็นทั้งหมด จนในที่สุด ใบปริญญาได้มาอยู่ในมือลูกสาว ป้าก่ อนมกราคม ขั้นต่ อไปคือเช่ าชุดครุย แล้วงานรับ ปริญญาเล็ก ๆ ในโรงพยาบาล ก็เริ่มขึ้น แม่กอดลูกสาวที่ ถือใบปริญญา ถ่ายรูปเป็นสิบ ๆ ใบ แม้ภาพถ่ายจะมีสาย น้ำเกลือระโยงระยางอยู่ข้างหลัง แต่จะสนใจทำไม คุณป้า ยิ้มแย้มแจ่มใสถ่ายรูปกับลูกสาวไม่รู้เหนื่อย ได้รูปแล้ว พี่แอ้ ขอให้ลูกสาวป้าไปขยายรูปใส่กรอบอย่างดีแล้วเอามาไว้ที่ โรงพยาบาล คุณป้านอนกอดรูปอย่ างมีความสุขทุกวัน วันหนึ่ ง ป้าบอกกับพี่แอ้ว่า “หนูรู้ไหม ป้าเลี้ยงลูกมาคนเดียวเลยนะ เหนื่อยมาก แต่วันนี้ชื่นใจที่สุด ป้าทำสำเร็จแล้วใช่ไหมหนู” พี่แอ้น้ำตาซึม ได้แต่กอดแล้วบอกว่า “ป้าจ๋า ป้าเก่ง ที่สุด ป้าส่งเขาถึงฝั่งแล้ว ไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้วนะ” เช้า วันรุ่งขึ้น คุณป้าก็สิ้นลมอย่างสงบ ท่ามกลางรูปที่ถ่ายกับ ลูกสาว ใบปริญญาของลูก กลายเป็นรางวัลยิ่งใหญ่สำหรับ แม่ที่บอกว่า ‘แม่ทำสำเร็จแล้ว’ วันหมดลมหายใจ ไม่มีใครบอกได้ แต่สิ่งที่เรารู้ได้คือ เราจะทำอะไรก่อนที่จะถึงวันนั้น คนป่วยอาจจะโชคดีกว่า เล็กน้อยที่ พอจะรู้ว่ า เวลาของเขามีอีกไม่ มาก อยากทำ อะไรให้รีบทำ แต่คนที่สบายดี บางทีก็เศร้าพร่ำเพรื่อ ใช้ ชีวิตแบบที่คิดว่า ฉันคงไม่ตาย แล้ววันหนึ่งจะมาเสียดายที่ มีอะไรอีกมากมาย ซึ่งยังไม่ได้ทำ และหนึ่ งในนั้นคือ กอดคนที่ เรารักได้แน่ นที่ สุด หรือยัง


ผู้ตั้งกระทู้ NAKHONSRI AWESOME :: วันที่ลงประกาศ 2012-05-30 03:43:12


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4021026)

แบ่งปัน มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เกิดจากต่อมน้ำเหลืองโตมากจนเกินไป อาการคล้ายกับอาการของโรคทั่วๆไปจึงทำให้วินิจฉัยได้ยาก
สังเกตุโดยหาก้อนแข็งที่บริเวณต่างๆของร่างกายและก้อนนั้นไม่เจ็บ
ควรเข้าใจกับโรคของตน รู้ว่าเป็นชนิดไหน ต้องทำการรักษาด้วยวิธีไหนและหมั่นเข้ารับการตรวจ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยอดหญิง วันที่ตอบ 2016-10-07 11:20:07



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สำนักข่าวนครโพสต์ เลขที่ 5/1 ซ.อัศวรักษ์ 1 ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 80000 โทร.075-320227 โทรสาร 075-320716 อีเมลล์ : nakhonpost@hotmail.com